นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ (TACC) เปิดเผยว่า LINE ประเทศไทยไว้วางใจให้ TACC เป็นตัวแทนดูแลลิขสิทธิ์ โดยจะร่วมมือผลักดันครีเอเตอร์ไทยที่มีศักยภาพในสังกัด LINE CREATORS เจ้าของ 12 คาแรคเตอร์ฮิตที่โด่งดังจาก LINE STICKERS ในประเทศไทยเข้ามาเสริมพอร์ตโฟลิโอธุรกิจ License เพื่อเป็นตัวแทนดูแลลิขสิทธิ์อื่นๆ ของบริษัทฯ ต่อยอดจากกลุ่มคาแรคเตอร์เดิมที่มีอยู่ เช่น San-X, หมาจ๋า, Jay The Rabbit และ Warbie Yama ซึ่งจะส่งเสริมให้คาแรคเตอร์ฝีมือครีเอเตอร์ไทยได้มีโอกาสสร้างสรรค์ผลงานที่ต่อยอดในธุรกิจลิขสิทธิ์ทั้ง Merchandising และ Premium อย่างกว้างขวางมากขึ้น ด้วยเครือข่ายลูกค้าและพันธมิตรที่แข็งแกร่ง ทั้งในตลาดประเทศไทยและต่างประเทศ
นางสาวอิสรี ดำรงพิทักษ์กุล ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ Consumer Business, LINE ประเทศไทย กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่าง LINE CONSUMER BUSINESS ประเทศไทย และ TACC ในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมครีเอเตอร์ไทยที่อยู่ในสังกัด LINE CREATORS ของเรา ด้วยการต่อยอดเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจผ่านการธุรกิจสินทรัพย์ทางปัญญา (IP Business) รวมถึงผลักดันศักยภาพของคาแรคเตอร์ฝีมือครีเอเตอร์ไทยให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก ซึ่งจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มทางการตลาดให้กับเครือข่ายลูกค้าและพันธมิตรของทั้ง LINE ประเทศไทย และ TACC และนำไปสู่เศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน
ในการร่วมมือครั้งนี้ TACC จะได้รับสิทธิในการประสานงานดูแล 12 คาแรคเตอร์ภายใต้สังกัด LINE CREATORS ได้แก่ Dueb Dueb, Mao Whatta Pug, Onnie Bear, Gluta Bear, N9 Party Gang (Mhee gud gid, Cheer Rabbit, Chi Chi Chik), BearPlease, Shibung & Bingsu, minimal G, Boobib, Cotton, Mheenoom & Tainim และ Tuagom ซึ่งบางส่วนได้มีโอกาสได้ร่วมงานกับแบรนด์สินค้าชั้นนำต่างๆ มาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น นีเวีย ยูนิโคล่ ชุดชั้นในซาบีน่า เป็นต้น
"ภาพรวมของธุรกิจลิขสิทธิ์คาแรคเตอร์ในปี 2565 มีแนวโน้มที่ดีขึ้นหากเทียบกับช่วงการแพร่ระบาดของโควิดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเริ่มเห็นสัญญาณการกลับมาฟื้นตัว โดยบริษัทคู่ค้าต่างๆ ได้เริ่มมีกิจกรรมทางการตลาดที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำโปรโมชั่น การทำแคมเปญ หรือสินค้าพรีเมียมเพื่อดึงดูดผู้บริโภคที่มากขึ้น" นายชัชชวี กล่าวเสริม
อย่างไรก็ตาม TACC ได้ตั้งเป้าหมายระยะกลางไว้โดยจะเร่งสร้างยอดขายในธุรกิจคาแรคเตอร์ให้เติบโตมากขึ้น จากการขยายธุรกิจคาแรคเตอร์ไปยังต่างประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม กัมพูชา เมียนมา และลาว ให้ได้ในอนาคต