นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ ผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บมจ.การบินไทย (THAI) เปิดเผยว่า วันนี้ศาลล้มละลายกลางเห็นชอบให้บมจ.การบินไทยแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการตามที่เสนอโดยลดวงเงินกู้จาก 5 หมื่นล้านบาท เหลือ 2.5 หมื่นล้านบาท และหลังจากนี้บริษัทจะเข้าสู่ขั้นตอนแปลงหนี้เป็นทุน และเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน ซึ่งคาดใช้เวลา 1 ปี หรือภายในปี 66
ขณะเดียวกันคาดว่า บริษัทจะสามารถออกจากแผนฟื้นฟูกิจการได้ในปลายปี 66 ซึ่งเร็วกว่าแผนเดิมในปลายปี 67 เพราะคาดว่าในปีหน้าบริษัทจะมีกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) หักค่าเช่าเครื่องบิน มากกว่า 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขการออกจากแผนฟื้นฟู
นายศิริ กล่าวว่า เหตุที่คาดว่าการบินไทยจะออกจากแผนฟื้นฟูได้เร็วขึ้นเนื่องจากธุรกิจการบินฟื้นตัวได้เร็ว โดยในไตรมาส 3/65 มีอัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ย 80% ซึ่งเดือนก.ย.65 ได้มากกว่า 80% โดยเส้นทางกรุงเทพ-ลอนดอน มี Cabin Factorสูงถึง 90-100% และในไตรมาส 4/65 คาดว่า Cabin Factor จะมากกว่า 80% เพราะเป็นฤดูกาลท่องเที่ยว ซึ่งมีการเพิ่มความถี่ในเส้นทาง โดยเฉพาะญี่ปุ่น และ สิงคโปร์
นอกจากนี้ บริษัทยังนำเครื่องบินแอร์บัส A330 จำนวน 3 ลำที่รอการขายนำมาปรับปรุงใช้เพื่อเตรียมรองรับการเดินทางที่มีดีมานด์เพิ่มขึ้นในเส้นทางญี่ปุ่น และจีน
"หวังว่าแนวโน้มจะดีต่อเนื่องถึงสิ้นปีและก็หวังว่าปีหน้าจะดีต่อเนื่อง ซึ่งยังมีเรื่อง Global Recession ที่ยังน่ากังวล ถ้าไม่กระทบ ปีหน้าก็น่าจะออกจากแผนฟื้นฟูได้ในปี 66" นายศิริ กล่าว