นายณรงค์เดช จันทรไพศาล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งขึ้นได้ต่อ แม้ภาพรวมตลาดหุ้นในต่างประเทศจะไม่ได้ดีนัก แต่ยังได้รับปัจจัยหนุนจากทิศทางผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง และ กำไรต่อหุ้น (EPS) ที่มีทิศทางปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น
อย่างไรก็ตามยังคงต้องติดตามประเด็นการควบรวมกิจการของ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) และบมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) หลังจากสภาองค์กรของผู้บริโภคเตรียมฟ้องศาลปกครองขอคุ้มครองฉุกเฉิน จึงอาจจะเข้ามากระทบให้เกิดความผันผวนได้บ้าง รวมทั้งจับตาทิศทางเงินทุนต่างชาติที่เริ่มไหลเข้ามาลงทุนในฝั่ง Long ในตลาด TFEX เพิ่มเติมด้วย
พร้อมให้แนวรับที่ 1,580 จุด และ แนวต้าน 1,600 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (20 ต.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,333.59 จุด ลดลง 90.22 จุด หรือ -0.30%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,665.78 จุด ลดลง 29.38 จุด หรือ -0.80% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,614.84 จุด ลดลง 65.66 จุด หรือ -0.61%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 26,903.50 จุด ลดลง 103.46 จุด หรือ -0.38%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 16,331.11 จุด เพิ่มขึ้น 50.89 จุด หรือ +0.31% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,038.04 จุด เพิ่มขึ้น 2.99 จุด หรือ +0.1%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (20 ต.ค.65.) ที่ระดับ 1,592.73 จุด เพิ่มขึ้น 4.01 จุด, +0.25%
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,520.26 ล้านบาท เมื่อวันที่ 20 ต.ค.65
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.(20 ต.ค.) เพิ่มขึ้น 43 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 85.98 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (20 ต.ค.) อยู่ที่ 1.50 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 38.36 อ่อนค่าจากวานนี้ ให้กรอบ 38.05-38.40 จับตาบอนด์ยีลด์สหรัฐ-Flow
- "การบินไทย" เดินหน้าจ้างที่ปรึกษาทางการเงินเริ่มแปลงหนี้ เป็นทุนและเพิ่มทุน เคลื่อนแผนฟื้นฟู กิจการฉบับใหม่ คาดแอคชั่นแผนได้ต้นปี 66 เผยระยะเร่งด่วนจัดหาทุน 12,500 ล้านบาทเสริมสภาพคล่อง
- บอร์ด กสทช.ถกมาราธอน 11 ชม. ประธานใช้สิทธิชี้ขาดไฟเขียว "ทรูควบดีแทค" พ่วงมาตรการทีเด็ด ดัดหลังเอกชน ท็อปอัปเพิ่มเงื่อนไข พลิกโฉมหน้าอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทย
- ชงตั้ง 'กองทุนเอเปค' ช่วยรายย่อยมีเงินทุน โดย รมว.คลังของไทยในฐานะประธานที่ประชุมรมว.คลังเอเปค ครั้งที่ 29 เปิดเผยว่าในการประชุมต้องหารือแนวทางหารายได้เข้ารัฐเพิ่มให้เหมาะสม กลับมาดูแลหนี้สาธารณะอย่างไรเมื่อเศรษฐกิจดีขึ้น จากหลายประเทศทั่วโลกเผชิญกับปัญหาแพร่ระบาดโควิด ความรุนแรงรัสเซีย-ยูเครนยังยืดเยื้อ จนต้องใช้เงินงบประมาณช่วยเหลือประชาชนทำให้ภาระหนี้สาธารณะของหลายประเทศพุ่งสูงขึ้น
- กบง.เคาะตรึงราคาก๊าซหุงต้มไว้ที่ 408 บาท/ถัง/15 กก. ต่อเนื่องอีก 2 เดือน มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.ถึง 31 ธ.ค.65 หวังช่วยลดผลกระทบค่าครองชีพของประชาชน
*หุ้นเด่นวันนี้
- PCC (ทรีนีตี้) "ซื้อ" ประเมิน Fair value สิ้นปี 65 ที่ 4.8 บาท เข้าเทรดวันแรก คาดผลประกอบการปี 65-66 กำไรสุทธิ 343 ล้านบาท และ 393 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 69% และ 15% เป็นผลมาจากการเพิ่มกำลังการผลิตของหม้อแปลงไฟฟ้า (PEM) ตลอดจนการเปลี่ยนเครื่องจักรการผลิตให้เป็นแบบอัตโนมัติประสิทธิภาพสูง เช่นเดียวกันการเพิ่มกำลังการผลิตของตัวถังหม้อแปลงไฟฟ้า (PMW) จาก 2,000 ถังต่อปี เป็น 7,500 ถังต่อปี รวมถึงเพิ่มกำลังผลิตตู้โลหะสำหรับตู้สวิตช์เกียร์ และตู้สวิตช์บอร์ด อุปกรณ์ควบคุม จาก 2,000 ตู้ต่อปีเป็น 3,200 ตู้ต่อปีและมีแผนขยายโรงงานผลิตไปยังกัมพูชาคาดเริ่มผลิตและจำหน่ายต้นปี 66 รวมถึงการทำธุรกิจปลูกกัญชงในระบบปิดที่คาดว่าจะรับรู้รายได้เชิงพานิชย์ภายในปี 65
- AH (กรุงศรี) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 36 บาท มีข่าวดี ส.อ.ท.รายงานยอดผลิตรถยนต์พุ่งขึ้นแตะระดับ 179,237 คัน เพิ่มขึ้น 4%mom และ 28%yoy ทำสถิติสูงสุดในรอบ 9 เดือน
- TTB (กสิกรไทย) "ซื้อ" ราคาพื้นฐาน 1.59 บาท รายงานกำไรไตรมาส 3/65 ที่ 3.71 พันล้านยาท เติบโต 8% QoQ และ 57% YOY ดีกว่าเราและตลาดคาด หลักๆมาจากการตั้งสำรองน้อยกว่าคาด และรายได้ดอกเบี้ยสุทธิดีกว่าคาดจาก NIM, คุณภาพสินทรัพย์ยังควบคุมได้ดี NPL ทรงตัว 3% มองกำไรยังอยู่ในระดับที่ดีในไตรมาส 4/65 จากแนวโน้มสินเชื่อน่าจะเริ่มเติบโตได้มากขึ้น พร้อมทั้งรายได้ค่าธรรมเนียม อีกจุดเด่นคือมูลค่าหุ้นปัจจุบันถูก อิงตาม PBV ปี 65 ที่ 0.56 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่ม BANK ที่ 0.7 เท่า