นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งไซด์เวย์ขึ้น ตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย และเป็นไปตามทิศทางของตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนนี้ที่ปรับเพิ่มขึ้น จากการที่ตลาดเข้าสู่โหมดเปิดรับความเสี่ยง (Risk-on) อีกครั้ง ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการที่ตลาดตอบรับปัจจัยกดดันไปมากแล้ว
ขณะเดียวกันยังตลาดเริ่มมีความเชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเริ่มผ่อนแรงการขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุก หลังกิจกรรมทางเศรษฐกิจสหรัฐฯบางกิจกรรมเริ่มชะลอตัวลงในเดือนต.ค.นี้ ทำให้ความร้อนแรงของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯลดลง อีกทั้งคาดว่าจะมีแรงหนุนจากแรงซื้อเก็งกำไรกลุ่มหุ้นที่จะเริ่มทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/65 ช่วยหนุน
โดยให้แนวต้าน 1,600-1,605 จุด แนวรับ 1,575-1,580 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (20 ต.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,499.62 จุด พุ่งขึ้น 417.06 จุด หรือ +1.34%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,797.34 จุด เพิ่มขึ้น 44.59 จุด หรือ +1.19% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,952.61 จุด เพิ่มขึ้น 92.90 จุด หรือ +0.86%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,113.20 จุด เพิ่มขึ้น 138.3 จุด หรือ +0.51%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 15,242.10 จุด เพิ่มขึ้น 61.41 จุด หรือ +0.40% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,969.16 ลดลง 8.40 จุด หรือ -0.28%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (21 ต.ค.65.) ที่ระดับ 1,591.32 จุด ลดลง 1.41 จุด -0.09%
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,433.96 ล้านบาท เมื่อวันที่ 21 ต.ค.65
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค. (24 ต.ค.) ลดลง 47 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 84.58 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (24 ต.ค.) อยู่ที่ 1.30 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 38.13 แข็งค่าจากสัปดาห์ก่อน จับตาบอนด์ยีลด์-ทิศทาง Flow ต่างชาติ
- คณะกรรมการ ม.36 สายสีส้ม ปัดเทียบส่วนต่างขอรับเงิน สนับสนุนรัฐ ประมูลครั้ง 1 และ 2 ชี้ต่างเวลาและข้อมูล ส่วนปมกรรมการ "ITD" จำคุกคู่สัญญาพีพีพี ส่วนผลเจรจา "บีอีเอ็ม" เคาะค่าโดยสารสูงสุด 42 บาท แต่ไม่ลดค่าก่อสร้าง งานโยธา
- กฟผ. ยังมีความหวังรักษาระดับการผลิตไฟฟ้าสัดส่วน 51% รอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ชะตาภายใน 120 วัน หรือช่วง มี.ค.66 หลังสูญเสียให้กับเอกชนเหลือเพียง 32% พร้อมยื่นเสนอ "พลังงาน" ทำแผนพีดีพี 2022 ใหม่ เพิ่มการผลิตไฟโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดเป็น 1 หมื่นเมกะวัตต์ มุ่งพลังงานสะอาด ลดโลกร้อน
- รัฐบาลโชว์ตัวเลขท่องเที่ยวฟื้น ที่นั่งโดยสารบินเข้าไทยช่วงฤดูหนาวพุ่งเกิน 50% จากช่วงโควิด-19 และเพิ่มขึ้น 74.2% จากช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา มั่นใจทั้งปีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคนตามเป้าหมาย เผยเป็นสัญญาณบวกต่อการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจไทย
- ททท.ดันร่างโครงการใหม่กระตุ้นเศรษฐกิจปลายปีเป็นของขวัญให้คนไทย เบื้องต้นมองที่โครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 ส่วนบูสเตอร์ช็อตท่องเที่ยวส่อวืด
*หุ้นเด่นวันนี้
- ITNS (ทิสโก้) "ซื้อ" จากการประมาณการเบื้องต้น INTS มีมูลค่าที่เหมาะสมในปี 66 ที่ 5.15 บาท (อิงบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมทั้งที่มีลักษณะการดำเนินธุรกิจใกล้เคียงกัน ที่ P/E 16 เท่า)
โดยเรามองแนวโน้มการเติบโตของบริษัทในปี 65-66 มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด รับแรงหนุนจากกระแส Digital Transformation หนุนงานในมือรอรับรู้รายได้รวม 523 ล้านบาท (ทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 369.91 ล้านบาท) รวมทั้งยังมีโครงการอีกจำนวนมากที่บริษัทจะเข้าร่วมประมูลในอนาคต (คาดจะเข้าร่วมประมูล 700-1,000 ล้านบาท/ปี) ความเสี่ยงที่ต้องระวังของ ITNS คือ การแข่งขันในอุตสาหกรรมที่สูง, และการควบคุมต้นทุนในแต่ละโครงการ
- KTB (กรุงศรี) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 21 บาท ประกาศงบไตรมาส 3/65 ดีเกินคาดมีกำไรสุทธิ 8.3 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 1%qoq และ 14%yoy ดีกว่าที่เราและตลาดคาดไว้ 13% (เราคาดกำไร 7.5 พันล้านบาท)
- CENTEL (คิงฟอร์ด) "ซื้อเก็งกำไร" ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 53.50 บาท แนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลัง ฟื้นตัวต่อเนื่องรายไตรมาส หนุนจากธุรกิจโรงแรมในประเทศไทยที่มีอุปสงค์แข็งแกร่งทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัดู หลังสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลายและเริ่มเปิดประเทศ ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวและคนที่เข้ามาทำธุรกิจเริ่มกลับมา ขณะที่ไตรมาส 4 น่าจะเห็นการฟื้นตัวของโรงแรมในมัลดีฟส์เนื่องจากเข้าสู่ช่วง High Season ส่วนธุรกิจอาหารเติบโตต่อเนื่องตามตัวเลข SSSC ที่ขยับขึ้นแม้ว่าจะเป็นหน้าฝน ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบในการทำอาหารเริ่มลดลง เช่น ราคาน้ำมันปาล์ม (ใช้เยอะใน KFC , Mister Donut และจะเป็นบวกต่อเนื่องไปยังไตรมาส 4 จากฤดูกาลจับจ่ายใช้สอย-เฉลิมฉลองในช่วงปลายปี