นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์-รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นอื่นๆ ในต่างประเทศ หลังราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น 3% จากสต็อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล และยอดการส่งออกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับ 5.1 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ขณะที่ตัวเลขการส่งออกของประเทศไทยสามารถเติบโตได้กว่า 7.8% สูงกว่าที่ตลาดคาด 4.3% ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนกลุ่มส่งออก แต่อย่างไรก็ตาม จะมีแรงกดดันเข้ามาในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากผลประกอบการของกลุ่ม META และ FACEBOOK ที่ออกมาต่ำกว่าคาด
โดยนักลงทุนยังคงติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และการประกาศตัวเลข GDP สหรัฐฯไตรมาส 3/65 รวมถึงผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไทยที่ทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง
พร้อมให้แนวต้านที่ 1,600-1,605 จุด และแนวรับ 1,593 จุด และ 1,590 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (26 ต.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,839.11 จุด เพิ่มขึ้น 2.37 จุด หรือ +0.01%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,830.60 จุด ลดลง 28.51 จุด หรือ -0.74% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 3,830.60 จุด ลดลง 28.51 จุด หรือ -0.74%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,407.23 จุด ลดลง 24.61 จุด หรือ -0.1%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 15,721.27 จุด เพิ่มขึ้น 403.6 จุด หรือ +2.63% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,005.04 จุด เพิ่มขึ้น 5.54 จุด หรือ +0.18%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (26 ต.ค.65.) ที่ระดับ 1,596.46 จุด ลดลง 4.20 จุด, -0.26%
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 860.41 ล้านบาท เมื่อวันที่ 26 ต.ค.65
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค. (26 ต.ค.) เพิ่มขึ้น 2.59 ดอลลาร์ หรือ 3% ปิดที่ 87.91 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (26 ต.ค.) อยู่ที่ 1.46 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 37.64 จับตา GDP สหรัฐ-ประชุม ECB คาดกรอบ 37.50-37.85
- ส่งออก ก.ย.ขยายตัว 7.8% ต่อเนื่อง 19 เดือน ปัจจัยบาทอ่อน เศรษฐกิจฟื้น ปัญหาขาดเซมิคอนดักเตอร์คลี่คลาย ดันยานยนต์โตเด่น "นักเศรษฐศาสตร์" ชี้ ส่งออกไทยเดือน ก.ย.สูงกว่าคาด จากปัญหา เซมิคอนดักเตอร์คลี่คลายทำส่งออกรถยนต์ได้เพิ่มขึ้น ห่วงปีหน้าโตชะลอจากปัญหาเศรษฐกิจโลกถดถอย สรท.ห่วงเศรษฐกิจสหรัฐถดถอยลามไปอียู ปัญหาเงินเฟ้อ ลากยาวตามราคาพลังงาน
- "อิบซอสส์" ชี้เทรนด์ผู้บริโภคชาวไทย รับมือภาวะเงินเฟ้อสูงสุดในอาเซียน ฉุดความเชื่อมั่นต่ำสุดในภูมิภาค หลังเผชิญราคาสินค้าพุ่ง ขณะ"รายได้ลดลง" รัดเข็มขัดหนัก เน้นสินค้าจำเป็น "มีเดีย อินเทลลิเจนซ์" ระบุสะเทือนแบรนด์ทำตลาด ฉุดงบโฆษณาปี 65 โตต่ำ 7.4%
- ธปท.เผยผลทดสอบการใช้ CBDC ในระดับสถาบันการเงิน เป็นไปด้วยดี โดยช่วยลดต้นทุนการทำธุรกรรมลง พร้อมยังลดความเสี่ยงด้านการชำระดุล ทั้งยังลดระยะเวลาการโอนเหลือหลักวินาทีจากเดิมต้องใช้เวลา 3-5 วัน
- สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยผลการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ 43 แห่ง ณ สิ้นเดือน ก.ย. ว่า เป็นไปตามเป้าหมาย มีผลการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสม 276,249 ล้านบาท หรือ 96% ของแผนการเบิกจ่ายสะสม ประกอบด้วย การเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจปีงบประมาณ 2565 (ต.ค.64-ก.ย.65) 34 แห่ง จำนวน 114,690 ล้านบาท หรือ 88% ของกรอบลงทุนทั้งปี ส่วนรัฐวิสาหกิจอีก 9 แห่ง เป็นรัฐวิสาหกิจตามปีปฏิทิน (ม.ค.-ก.ย.65) จำนวน 161,558 ล้านบาท หรือ 103% ของแผนเบิกจ่ายสะสม ที่อยู่ระหว่างการเบิกจ่ายอีก 3 เดือน (ต.ค.-ธ.ค.65)
- เร่งแผนพลังงานแห่งชาติผุดพีดีพีแล้วเสร็จไตรมาสที่ 2 ปี 66 ด้าน "สุพัฒนพงษ์" ชี้วิกฤตซ้ำซ้อน เร่งหาพลังงานทดแทน-พลังงานสำรองรับมือ เดินหน้ากู้แสนล้านโปะกองทุน
*หุ้นเด่นวันนี้
- JWD (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" อยู่ระหว่างปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2566 ที่ 24-26 บาท โดย JWD และ SCGL (บ.ย่อยของ SCC) จะรวมกิจการกัน (เปลี่ยนชื่อเป็น SCGJWD) โดย JWD จะเพิ่มทุน 791 ล้านหุ้นๆละ 24.02 บาทให้กับผู้ถือหุ้นของ SCGL เพื่อแลกกับหุ้นทั้งหมดของ SCGL คาดแล้วเสร็จไตรมาส 1/66 ทั้งนี้ SCGJWD จะถือหุ้นโดยกลุ่ม SCC 42.9% และกลุ่มผถห.เดิมของ JWD 31.8% และจะกลายเป็นผู้ให้บริการ Logistics และ Supply chain ใหญ่สุดใน ASEAN มีธุรกิจในกว่า 8 ประเทศ ธุรกิจไม่ซ้ำซ้อนกัน แต่ส่งเสริมกัน และได้ประโยชน์จากขนาดที่ใหญ่ขึ้น เราประเมินเบื้องต้นกำไรปีนี้ของ SCGJWD จะมากกว่า JWD ราว 90% ชดเชย Dilution จากหุ้นเพิ่มทุนได้หมด
- GULF (ดาโอ) เป้าเชิงกลยุทธ์ 53.00 บาท ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 66 ขึ้น หนุนด้วยการ COD โครงการใหม่ที่เริ่มในช่วงปลายปี 65 จำนวน 600 Mwe และได้ประโยชน์จากฐานของ Ft ที่ถูกยกระดับขึ้นราว 23 สต./หน่วย (เต็มปี) ขณะที่ราคาก๊าซธรรมชาติในปี 66 มีโอกาสลดลง คาดการลงทุนใน INTUCH และธุรกิจอื่นๆ นอกเหนือจากกลุ่มพลังงานจะมีความชัดเจนขึ้นในปี 66 และอาจจะนำไปสู่การปรับประมาณการกำไร/Outlook ของนักวิเคราะห์ในตลาด DAOL ประเมินกำไรสุทธิปี 2565-2566 3 ที่ 9.5 พัน ลบ. และ 1.54 หมื่น ลบ. +24%YoY, +61%YoY ตามลำดับ
- PTTEP (กรุงศรี) "ซื้อ" เป้า 185 บาท ได้ Sentiment บวกราคาน้ำมันดิบพุ่งแรงหลังจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเริ่มอ่อนค่า ด้านงบ ไตรมาส 3/65 ดีเกินคาดมีกำไรสุทธิ 2.4 หมื่นล้านบาทมากกว่าที่เราและตลาดคาดไว้ 25%