นางพิทยา วรปัญญาสกุล ผู้บริหารสูงสุดกลุ่มงานการตลาดและสื่อสารองค์กร บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) เปิดเผยว่า ในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมายอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต (Spending) ของบริษัทถือว่ามีการเติบโตขึ้นมากกว่าคาด โดยตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรของ KTC เติบโตขึ้น 23% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของบริษัทที่ตั้งไว้เติบโต 15% และคาดว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้จะยังเห็นแนวโน้มของยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเติบโตได้ในระดับ 20-22%
โดยปัจจัยสนับสนุนยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่เติบโตสูงขึ้นมองว่ามาจากความมั่นใจในการจับใจใช้สอยมากขึ้นของกลุ่มที่มีกำลังซื้อ หลังจากโควิด-19 คลี่คลาย และเศรษฐกิจมีการฟื้นตัว การประกอบอาชีพต่างๆกลับมาดำเนินงานตามปกติ ทำให้มีรายได้กลับมามากขึ้น ทำให้กลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อ หรือกลุ่มคนทำงานประจำที่เป็นฐานลูกค้าผู้ถือบัตรเครดิตของ KTC มีการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตมากขึ้น โดยเฉพาะในหมวดประกัน และหมวดมาร์เก็ตเพลส หรือออนไลน์ช้อปปิ้งที่เป็น 2 หมวดใน 3 อันดับแรก
ขณะเดียวกันการเดินทางที่กลับมามากขึ้น หลังจากกลับมาเปิดเมืองตามปกติ ทำให้คนกลับมาทำงาน มีการใช้จ่ายในหมวดสถานีบริการน้ำมันมากขึ้นตามมาด้วยเช่นกัน รวมถึงการท่องเที่ยวที่ภาครัฐมีการกระตุ้น และการเปิดประเทศให้สามารถบินไปท่องเที่ยวต่างประเทศได้ ทำให้การใช้จ่ายผ่านบัตรในหมวดท่องเที่ยวกกลับมาอยู่ในอันดับ 4-5 แล้ว จากก่อนหน้านี้ที่อยู่อันดับ 10 ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนที่ทำให้ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตมีการเติบโตสูงกว่าที่บริษัทคาดไว้
นอกจากนี้บริษัทได้เห็นแนวโน้มของตัวเลขของการใช้จ่ายผ่านบัตรของฐานลูกค้า KTC ต่อราย ที่สูงขึ้นในระดับหนึ่งจากปีก่อน ซึ่งปัจจุบันยอดเงินการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของลูกค้าเพิ่มขึ้นมาเป็นเฉลี่ย 11,000-12,000 บาท/บัตร/เดือน จากเดิมที่อยู่เกือบ 10,000 บาท/บัตร/เดือน สะท้อนภาพของความมั่นใจในการจับจ่ายใช้สอบที่มากขึ้น
อย่างไรก็ตามในส่วนของการขยายฐานลูกค้าบัตรเครดิตใหม่นั้นยังค่อนข้างทำได้ช้า ซึ่งในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา สามารถขยายจำนวนบัตรเครดิตใหม่ได้เพียง 120,000 ใบ จากเป้าที่บริษัทตั้งไว้ที่ 250,000 ใบ ส่วนหนึ่งมาจากการที่บริษัทปรับกลยุทธ์หันมาขยายฐานกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ที่สูงขึ้นในระดับ 50,000 บาท/เดือนขึ้นไป เพราะบริษัทต้องการขยายฐานกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง เพื่อต่อยอดกลุ่มลูกค้าของบริษัท และต้องการหันมาเน้นด้านคุณภาพของลูกค้ามากกว่าเน้นปริมาณลูกค้า เพื่อกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตบัตรเครดิตของ KTC โดยที่ปัจจุบันบริษัทมีจำนวนฐานบัตรเครดิตรวม 2.5 ล้านใบ
นางประณยา นิถานานนท์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร - การตลาดบัตรเครดิต KTC กล่าวว่า MAAI by KTC ได้นำเสนอแนวคิด "Digital CRM Platform" ซึ่งเป็นลอยัลตี้ แพลตฟอร์มที่ให้บริการกับพันธมิตรธุรกิจแบบครบวงจรในการสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มลูกค้าสมาชิก มาเป็นระยะเวลาราว 10 เดือน ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอต่อกลุ่มธุรกิจที่กำลังมองหาเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ และปัจจุบันมีผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดได้เข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรในการสร้างแพลตฟอร์มด้าน CRM ร่วมกับ MAAI by KTC ที่เป็นพันธมิตรหลัก ได้แก่ KTC, บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG), บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) และ ONE SIAM อีกทั้งยังได้มีแผนการขยายพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยเสริมด้านความหลากหลายในการทำ CRM ให้กับพันธมิตร
"เราเชื่อว่าด้วยจุดแข็งของการมีร้านค้าสมาชิกรับแลกคะแนนหลากหลายครอบคลุมทั่วประเทศ มี Ecosystem ที่สมบูรณ์ แพลตฟอร์ม MAAI by KTC จะสามารถตอบความต้องการของธุรกิจได้ทุกมิติ โดยให้พันธมิตรธุรกิจสามารถต่อยอดซึ่งกันและกันได้ไม่มีที่สิ้นสุด" นางประณยา กล่าว
ล่าสุด MAAI by KTC ได้ร่วมกับบมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR) และกลุ่มร้านอาหารเครือ Kouen Group เชื่อมต่อสิทธิประโยชน์ในการใช้คะแนนเริ่มต้น 350 MAAI Points ก็สามารถแลกซื้อสินค้าต่างๆ ได้ เช่น ใช้ 450 คะแนน MAAI แลกรับป็อปคอร์น เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ขนาด 64 Oz. มูลค่า 170 บาท หรือใช้ 350 คะแนน MAAI แลกรับขนมเบื้องหวานผึ้งน้อย ขนมเบื้องมิชลิน ภายใต้กลุ่มร้านอาหารเครือ Kouen Group มูลค่า 150 บาท
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีพันธมิตรผู้ประกอบการที่ใช้แพลตฟอร์ม MAAI by KTC ในหลากหลายธุรกิจ ประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจร้านอาหาร กลุ่มธุรกิจน้ำมัน กลุ่มห้างสรรพสินค้า กลุ่มธุรกิจรีเทล และร้านค้าถุงเงิน โดยมีแผนจะขยายเครือข่ายต่อเนื่องมากขึ้นกว่าปัจจุบันที่มีเครือข่ายในการแลกคะแนนกว่า 400,000 จุด และยังเดินหน้าขยายช่องทางร้านค้าในการใช้คะแนน MAAI แลกรับสิทธิประโยชน์ เพื่อให้ครอบคลุมไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของสมาชิกอีกด้วย