INTERVIEW: PACO โตอย่างมั่นคงฝ่าเศรษฐกิจผันผวน ลั่น!! เปิดฉากลุยตลาด EV

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 28, 2022 14:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ในภาวะเศรษฐกิจที่ไม่มีความแน่นอนและปัจจัยเรื่องการขาดแคลนชิ้นส่วนอาจทำให้ตลาดรถยนต์ใหม่ไม่ดีนัก แต่ตลาดหลังการขาย (After market) ยังเติบโตได้ดีหลังจากผู้ใช้รถยนต์เลือกแนวทางนำรถเก่ามาปรับปรุงซ่อมแซมเพื่อใช้งานได้ต่อแทนการซื้อรถใหม่ ส่งผลให้ บมจ.เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ (PACO) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนระบบทำความเย็นในรถยนต์ตลาด After market ที่กินส่วนแบ่งตลาดในประเทศมากกว่า 90% อาทิ แผงคอยล์ร้อน (Condenser),คอยล์เย็น(Evaporator) , สายน้ำยา และ ข้อต่อต่างๆ รวมไปถึงอุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่องกับเครื่องปรับอากาศในรถยนต์ทั้งหมด จึงมองเป็นโอกาสการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

ขณะที่แนวโน้มของตลาดรถยนต์ EV ที่กำลังอยู่ในกระแสความนิยมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะนี้ท่ามกลางสถานการณ์ราคาน้ำมันแพง ประกอบกับ นโยบายส่งเสริมของภาครัฐได้ดึงดูผู้ผลิตรถ EV รายใหญ่จากทั่วโลกหลายรายพุ่งเป้าเข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย ก็เป็นอีกโอกาสทางธุรกิจที่ PACO ได้เตรียมแผนงานรองรับในช่วง 3-5 ปีเพื่อเข้าไปมีส่วนร่วมในระบบทำความเย็นเต็มรูปแบบสำหรับอุตสาหกรรมรถ EV

"PACO อยู่ในช่วงของการขยายตัว แม้ว่าจะว่าจะไม่ได้ขยายไปในแบบ Double ทันทีเข้าไปโตแบบ 100-200% ไม่ใช่ เราก็โตในวิถีของ PACO ที่เราทำมา และเรามีทิศทางที่ชัดเจนว่าเราจะไปทางไหน อย่างเช่น EV กำลังเป็นเทรนด์เข้ามาเรามีแผนไว้หมดแล้วว่าเราจะไป EV ยังไง ซึ่ง EV เองจำเป็นจะต้องใช้แอร์และตัวระบายความร้อนที่เพิ่มขึ้น ทุกอย่างอยู่ในแผนเราทั้งหมด ภายใน 3-5 ปี เราจะต้องเข้าไปใน EV อย่างเต็มรูปแบบ เรายังไม่สามารถเปิดเผยแผนได้ตอนนี้ แต่อยากให้นักลงทุนมั่นใจได้ว่า EV จะทำให้ PACO โตอย่างแน่นอน"นายสมชาย กล่าว

*กลยุทธ์รักษา No.1 ตลาด After market

นายสมชาย เลิศขจรกิตติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PACO เปิดเผยกับ "อินโฟเควสท์" ว่า หากมองตลาด After market ในช่วง 30 ปีก่อนถือว่าเป็นตลาดที่มีขนาดเล็กมากจนไม่น่าสนใจสำหรับผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไปปริมาณรถยนต์เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่หลายๆประเทศไม่ได้มีนโยบายให้ขายทิ้งรถเก่า จึงเห็นรถยนต์บางรุ่นที่ยังใช้งานอยู่และยังต้องใช้ชิ้นส่วนเหล่านี้ในการบำรุงรักษาและซ่อมแซม เป็นเสน่ห์ของตลาด After market ที่ยังเติบโตขึ้นทุกปี แทบจะเทียบเท่ากับตลาดรถใหม่

"เศรษฐกิจไม่ดีตลาด After market ไม่ตกเลย ตลาดรถยนต์ใหม่ไม่ดีตลาด After market ยิ่งขายดี เพราะจะต้องเอารถยนต์เก่ามาซ่อม"นายสมชาย กล่าว

ตลาดอะไหล่รถยนต์ แบ่งออกเป็น 3 ตลาดอย่างชัดเจน คือ 1.รับจ้างผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ (OEM) 2.รับจ้างผลผลิตชิ้นส่วนยานยนต์สำหรับศูนย์ซ่อม (OES) และ 3.อะไหล่รถยนต์สำหรับอู่นอก (After market)

นายสมชาย กล่าวว่า PACO มีความเข้มแข็งมากในตลาด After market ระบบทำความเย็นในรถยนต์ที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงกว่า 80% เนื่องจากมีผู้ผลิตน้อยราย โดยหากมองเฉพาะในประเทศไทยมีผู้ผลิตเพียง 2 รายเท่านั้น ขณะที่ในต่างประเทศ ผู้ผลิตที่เข้มแข็งอยู่ในประเทศจีนใน 3 ระดับ คือ ดี ปานกลาง ซึ่งปัจจุบันผลิตได้ไม่ทันกับความต้องการของลูกค้า และ ไม่ดีเลย

PACO อยู่ในตลาดนี้มานานมาก ด้วยการเดินหน้าขยายแบรนด์ของ PACO ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีของผู้ใช้รถยนต์ รวมถึงอู่ซ่อมรถยนต์ที่เป็นลูกค้าหลักจะรู้ดีว่าอะไหล่ระบบทำความเย็นในรถยนต์ของ PACO เป็นของคนไทยที่มีคุณภาพเทียบเท่ากับอะไหล่จากญี่ปุ่นและยุโรป แต่มีราคาที่ย่อมเยากว่า ขณะเดียวกัน ตลาดส่งออกยังมีความเข้มแข็งมาก โดยบริษัทส่งออกสินค้าไปจำหน่ายทั่วโลกกว่า 45 ประเทศ อาทิ สหรัฐ ตะวันออกกลาง ญีปุ่น เกาหลี และไต้หวัน เป็นต้น

นายสมชาย กล่าวว่า คู่แข่งที่จะเข้ามาในตลาดนี้เข้ามาไม่ยาก แต่จำนวนรุ่นรถยนต์ที่ใช้อยู่ตลอดระยะเวลา 30 ปีในประเทศไทยมีมากกว่า 300-400 รุ่น หากผู้ประกอบการรายใหม่ๆ เข้ามามักจะมีจำนวนอะไหล่เพียง 30-40 รุ่น ดังนั้น การจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ในตลาด After market ทำได้ไม่ยาก แต่เติบโตได้ยาก ทำให้ขณะนี้ประเทศไทยมีผู้ประกอบการเพียง 2 รายที่สามารถแข่งขันกันได้ โดยสำหรับ PACO มีอะไหล่อยู่ทั้งหมดราว 2,000 รุ่นสำหรับ Condenser และ 1,200 รุ่นสำหรับ Evaporator

*ปรับราคาใหม่-ราคาวัตถุดิบลงหนุนรายได้ทั้งปีพุ่งแตะ 900 ลบ.ลุยต่อปี 66 โตอย่างน้อย 15-20%

"ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาเราก็โต แต่โตไม่เท่าที่เราคาดหวังไว้ เพราะผลกระทบจากโควิด-19 ถามว่ากระทบอะไร เรา กระทบเรื่องพนักงานคนนี้ติดโควิดเพื่อนติดโควิดเราติดโควิด ในช่วงที่ทุกคนตื่นเต้นไปให้ความสนใจกับโควิด โรงงานก็หายไปเลย พนักงานหายไปเลย 30-40% รัฐบาลประกาศปิดชายแดนขาดแรงงาน ทุกคนขาดเราก็ขาด เราก็ใช้ที่เรามีกำลังการผลิตก็ขยายไม่ได้ แต่พอไตรมาส 2 ทุกๆ อย่างดีขึ้นเยอะก็มาชดเชยไตรมาส 1 ทำให้เรายังเติบโตได้มากกว่าครึ่งปีที่แล้ว"นายสมชาย กล่าว

สำหรับภาพรวมผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังมั่นใจว่าจะเติบโตได้ดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการที่บริษัทปรับราคาขายสินค้าขึ้นมาเพื่อให้สะท้อนต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ทั้งอลูมิเนียม เหล็ก น้ำมัน และพลาสติก ซึ่งจะส่งผลต่อผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะเดียวกันยังมีปัจจัยหนุนจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากการส่งออกอยู่กว่า 45%

"PACO เราสามารถปรับราคาขายสินค้าได้ทันที เพราะเราอยู่ในตลาด After market มากกว่า 90% เราบอกขอขึ้นเค้าก็ต้องให้เราขึ้น เพราะเราไม่ได้รับจ้างผลิต แต่เราผลิตสินค้าเพื่อขาย ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นในช่วงครึ่งปีหลัง แต่โชคดีที่ตอนนี้ราคาวัตถุดิบต่างๆเริ่มปรับตัวลดลงมาแล้ว เราก็คาดหวังว่ามาร์จิ้นเราจะกลับมาที่เดิมแน่นอน"นายสมชาย กล่าว

สำหรับรายได้ทั้งปีบริษัทคาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 900 ล้านบาท สูงขึ้นจากปี 64 ที่มีรายได้ 709.08 ล้านบาท ขณะที่ปี 66 บริษัทคาดหวังรายได้จะเติบโตราว 20% หรืออย่างน้อยต้องไม่ต่ำกว่า 15% เนื่องจากบริษัทได้รับปัจจัยหนุนใหม่จากการเข้ารับงาน OEM เข้ามาเพิ่มเติม และ OES ที่มีการเติบโตค่อนข้างมาก เนื่องจากได้ลูกค้ารายใหญ่เข้ามา และยังมีลูกค้ารายใหม่ๆ ที่เตรียมจะเข้ามาเพิ่มเติมอีก

"เราปรับเป้ารายได้ปี 65 ลงมาเล็กน้อย เหลือ 900 จากเดิม 1,000 ล้านบาท จากผลกระทบของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 1/65 ส่วนกำไรขั้นต้นเราก็น่าจะทำได้กลับมาที่เดิม ขณะที่ปี 66 เราหวังเติบโตไว้ 20% แต่อย่างน้อยจะต้องเติบโต 15% ซึ่งปัจจุบันเรามีคำสั่งซื้อล่วงหน้าเข้ามาถึงเดือน มี.ค.66 แล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเพิ่มกำลังการผลิตในกะกลางคืนซึ่งจะเข้ามาเสริมกำลังการผลิต และ เสริมการรับงานคำสั่งซื้อใหม่ๆเข้ามาเพิ่มเติม"นายสมชาย กล่าว

*ลุยขยายเครือข่ายร้านอะไหล่แอร์รถยนต์ครบวงจรภายใต้แบรนด์ PACO Auto Hub

นายสมชาย เปิดเผยอีกว่า บริษัทอยู่ระหว่างเร่งขยายร้านอะไหล่แอร์รถยนต์ครบวงจรภายใต้แบรนด์ PACO Auto Hub โดยบริษัทตั้งเป้าหมายที่จะมีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศ ณ สิ้นปี 65 ที่ 300 สาขา จากปี 64 ที่ผ่านมามีสาขาอยู่เกือบ 200 สาขา ซึ่งจะเข้ามาช่วยเสริมความแข็งแรงด้านการตลาด เนื่องจากบริษัทผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ PACO

ภายในร้าน PACO Auto Hub จะจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอยล์ร้อนและคอยล์เย็นแบรนด์ PACO เป็นหลัก และมีสินค้าอื่นๆ อาทิเช่น ท่อน้ำยาแอร์ น้ำยาแอร์ เพื่อเป็นการให้บริการลูกค้าแบบครบวงจรในที่เดียว (One-Stop Solution)

บริษัทวางเป้าหมายการจำหน่ายสินค้าผ่าน PACO Auto Hub ในแง่ของการเข้ามาช่วยสนับสนุนรายได้จากตลาดในประเทศที่มีสัดส่วน 55% ของรายได้รวมในปี 65 ที่จะผลักดันให้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% โดยจะขยายสาขาอย่างต่อเนื่องให้ครบ 500 สาขาในอนาคต

"จะเป็นเครือข่ายที่จำหน่ายสินค้าและทำการตลาดให้กับ PACO ซึ่งเราแตกต่างกับสินค้า OEM รายอื่นๆ เพราะเราจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ PACO เราเหมือนขายแอร์ตัวนึงยี่ห้อ PACO พอนึกถึงแอร์ก็ซื้อ PACO ซึ่งปีก่อน PACO Auto Hub ช่วยยอดขายของเราให้เติบโตขึ้นมาราว 10% และเรามีโปรแกรมที่จะขยายต่อให้ไปถึง 500 สาขา ซึ่งเป็นเครือข่ายที่ถือว่าค่อนข้างแข็งแรง อีกทั้งเราไม่ได้ขายเฉพาะ air conditioner แล้ว ซึ่งเราก็ได้เริ่มแล้ว"นายสมชาย กล่าว

https://youtu.be/nAHhxHuJ8zs


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ