(เพิ่มเติม) KTB เผย Q1/51 ปล่อยสินเชื่อใหม่ 4 หมื่นลบ.จากเป้าทั้งปี 6-7 หมื่นลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday April 2, 2008 17:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย(KTB) เปิดเผยว่า ยอดสินเชื่อสุทธิของธนาคารในช่วงไตรมาส 1/51 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 4 หมื่นล้านบาท จากเป้าสินเชื่อรวมของปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโต 6-7 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6-7% จากปีก่อน 50 แต่ธนาคารก็ยังไม่มีแผนที่จะทบทวนเป้าหมายดังกล่าวในขณะนี้ 
ทั้งนี้ สินเชื่อที่ขยายตัวในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้เป็นสินเชื่อทั้งประเภทระยะยาวและระยะสั้น โดยเป็นสินเชื่อที่ปล่อยให้กับลูกค้าที่ประกอบธุรกิจปิโตรเคมีและโรงไฟฟ้า รวมทั้งยังสินเชื่อที่ปล่อยให้แก่ลูกค้าในกลุ่ม SME และกลุ่มลูกค้าสินเชื่อบ้านและที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นด้วย
"ตอนนี้ธนาคารจะคงเป้าสินเชื่อไว้ที่ 6-7 หมื่นล้านบาทไว้ก่อน แม้ 3 เดือนที่ผ่านมายอดสินเชื่อสุทธิเพิ่มขึ้นเยอะ แต่ก็ส่วนใหญ่ก็เป็นสินเชื่อระยะสั้น ซึ่งมีบางรายจะครบกำหนดชำระคืนในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ และการที่มีสินเชื่อระยะสั้นอยู่มากก็เป็นผลดีในแง่ของมาร์จิ้นที่ธนาคารจะได้รับมีอยู่ในระดับที่ดี"นายอภิศักดิ์ กล่าว
นายอภิศักดิ์ ยังกล่าวว่า ในไตรมาส 2/51 ธนาคารจะได้รับผลดีจากมาตรการภาษีของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ภาครัฐฯได้นำออกมาใช้ โดยคาดว่าจะมีลูกค้าในกลุ่มบ้านและที่อยู่อาศัยมาทำการโอนกรรมสิทธิ์กันมากขึ้น และยังทำให้การซื้อขายที่อยู่อาศัยมีความคึกคักมากขึ้น ซึ่งธนาคารจะใช้จังหวะนี้ช่วยโปรโมทแต่ละโครงการด้วย
ในด้านหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)ก็คาดว่าในไตรมาส 2/51 ตัวเลข NPL จะปรับตัวลดลงจากไตรมาส 1/51 ที่คาดว่าจะทรงตัวใกล้เคียงกับสิ้นปี 50 โดยตัวเลข NPL ที่จะลดลงนั้นเป็นผลมาจากการปรับโครงสร้างหนี้ของลูกหนี้ที่จะแล้วเสร็จในเดือน เม.ย.นี้ วงเงินประมาณ 1 หมื่นล้านบาท
"การเมืองที่นิ่งขึ้นทำให้ภาพรวมดีขึ้น กระตุ้นให้ลูกค้าเข้ามาทำธุรกรรมกับแบงก์มากขึ้น แต่ภายใต้การเมืองก็ยังมีปัจจัยเสี่ยง รวมถึงปัญหาน้ำมันด้วย ไม่รู้ว่าจะกระทบกับเศรษฐกิจทั่วโลก และประเทศไทยอย่างไร หากต่อไปปัญหาการเมืองรุนแรง ก็จะทำให้เป็นปัจจัยหลักทำให้ความเชื่อมั่นลดลง ไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจไทย"นายอภิศักดิ์ กล่าว
สำหรับตัวเลข NIM ในปี 51 คาดว่าจะทรงตัวที่ 4% เพราะโครงสร้างของอัตราดอกเบี้ยไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง พร้อมคาดว่าปีนี้กองทุนวายุภักษ์จะจ่ายเงินปันผลได้มากกว่าปี 50
นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า ธนาคารยังมีนโยบายที่จะถือลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศประเภท CDO ต่อไปให้ครบกำหนดเพื่อรอผลตอบแทน เพราะไม่มีความเสียหายเกิดขึ้นจาก CDO ที่ได้ลงทุนไป และที่ผ่านมาธนาคารได้กันสำรองสำหรับการลงทุนส่วนนี้ไว้แล้ว 3 พันล้านบาท จากที่ลงทุนไป 5 พันล้านบาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ