ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดลบ 0.71 จุด แกว่งแคบรอลุ้นผลประชุมเฟดส่งสัญญาณทิศทางปรับขึ้นดอกเบี้ย

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 2, 2022 17:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,625.02 จุด ลดลง 0.71 จุด (-0.04%) มูลค่าการซื้อขาย 66,481.75 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ ระบุตลาดหุ้นไทยแกว่งด้านข้างรอติดตามผลการประชุมเฟดคืนนี้ และจับตาประธานเฟดส่งสัญญาณชะลอปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งถัดไป หากรอบนี้เฟดขึ้นดอกเบี้ยตามคาด 0.75% จะหนุนสินทรัพย์เสี่ยง เงินดอลลาร์อ่อนค่า ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าหนุนเงินลงทุนต่างชาติไหลเข้าต่อเนื่อง แต่หากผิดคาดอาจมีแรงขาย แต่ภาพเศรษฐกิจไทยฟื้นยังหนุนภาพระยะกลาง พรุ่งนี้ให้แนวรับสำคัญ 1,610 จุด แนวต้านที่ 1,640 และ 1,650 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,625.02 จุด ลดลง 0.71 จุด (-0.04%) มูลค่าการซื้อขาย 66,481.75 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวแคบๆทั้งแดนบวกและลบ โดยทำระดับสูงสุด 1,630.56 จุด และระดับต่ำสุด 1,622.30 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 541 หลักทรัพย์ ลดลง 1,001 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 650 หลักทรัพย์

นายณรงค์เดช จันทรไพศาล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวลักษณะแกว่งตัวออกด้านข้าง ระหว่างที่นักลงทุนรอติดตามผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คืนนี้ ซึ่งตลาดคาดเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% แต่ที่สำคัญคือรอติดตามว่านายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดจะส่งสัญญาณชะลอปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไปหรือไม่

หากการประชุมครั้งนี้เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% และส่งสัญญาณไม่เร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยในครั้งถัดไปแล้วตามที่ตลาดคาด ก็จะส่งผลดีสินทรัพย์เสี่ยง เงินดอลลาร์น่าจะอ่อนค่า ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนนักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อหุ้นไทยต่อเนื่อง แต่หากไม่ได้ออกมาตามที่ตลาดคาดอาจมีแรงขายทำกำไรออกมา

ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวก็เป็นปัจจัยหนุนภาพระยะกลาง แต่ระยะสั้นอาจมีแรงขาย อย่างไรก็ดี มองว่าหากยืนระดับ 1,610 จุดได้ก็น่าจะไปต่อได้

แนวโน้มวันพรุ่งนี้ หากเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยตามตลาดคาดก็จะปรับขึ้นมาได้ แต่ถ้าไม่เป็นไปตามคาดอาจมีแรงขายออกมา โดยให้แนวรับสำคัญที่ 1,610 จุด แนวต้านที่ 1,640 และ 1,650 จุด

นอกจากนั้น ยังมีประเด็นที่ตลาดต้องติดตาม คือ การประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของไทยเดือน ต.ค.65 ในวันที่ 4 พ.ย.นี้ ตลาดคาดไว้ที่ 6% ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า โดยเชื่อว่าเงินเฟ้อจะเริ่มทยอยลดลงอย่างต่อเนื่อง และมีความมั่นใจเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวชัดเจนขึ้น รวมทั้งยังมีปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญ คือ การเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐในสัปดาห์หน้า

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

BTG มูลค่าการซื้อขาย 8,716.11 ล้านบาท ปิดที่ 36.25 บาท ลดลง 3.75 บาท

AAI มูลค่าการซื้อขาย 3,412.59 ล้านบาท ปิดที่ 7.85 บาท ลดลง 1.05 บาท

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,427.70 ล้านบาท ปิดที่ 186.50 บาท ลดลง 0.50 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,177.53 ล้านบาท ปิดที่ 74.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,154.22 ล้านบาท ปิดที่ 36.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ