(เพิ่มเติม) CPF ปรับแผนเช่ารง.ผลิตอาหารสัตว์ในยูเครนแทนสร้างใหม่/คาดกำไร Q1 ดีขึ้น

          บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร(CPF)ปรับเปลี่ยนแผนการขยายเข้าไปตั้งฐานการผลิตอาหารสัตว์บกในประเทศยูเครนมาเป็นการเช่าโรงงานที่มีอยู่แล้วมาปรับรูปแบบการผลิต แทนที่จะเข้าไปลงทุนสร้างโรงงานใหม่เอง เพราะมองว่าใช้เงินลงทุนต่ำกว่า โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในปลายปีนี้ 
          "ขณะนี้เรากำลังที่จะไปสำรวจเช่าโรงงานผลิตอาหารสัตว์บกที่ยูเครน ก็มีแนวโน้มว่าจะทำเรื่องนี้ได้ก่อนสิ้นปี หรือประมาณปลายปีนี้ ยังไม่รู้วงเงินลงทุนต้องรอผลสำรวจ"นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร CPF กล่าว
          CPF คาดว่าปี 51 รายได้รวมของบริษัทจะเติบโตราว 10-15% มาที่มากกว่า 1.4 แสนล้านบาท ซึ่งผลประกอบการที่ดีขึ้นจะเห็นได้ตั้งแต่ไตรมาส 1/51 ที่คาดว่ารายได้และกำไรของบริษัทจะสูงขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/50 ตามราคาเนื้อสัตว์ปรับตัวสูงขึ้น และไตรมาส 2 มีแนวโน้มที่ผลประกอบการจะดีต่อเืนื่องเช่นกัน 
          นอกจากนั้น ยังคาดว่ายอดส่งออกของบริษัทในปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 20% ของรายได้ จากปีก่อนที่อยู่ในระดับ 15% โดยสินค้าที่ส่งออกส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูป ที่มีตลาดหลักที่สหภาพยุโรป(อียู)ซึ่งคาดว่าปีนี้จะมีมูลค่าเติบโต 20% รองลงมาเป็นตลาดญี่ปุ่น 
          ส่วนการส่งออกกุ้งแช่แข็ง ขณะนี้ราคาไม่ค่อยดี ประกอบกับยังมีข้อพิพาทกรณีทุ่มตลาด (AD) ในตลาดสหรัฐ ซึ่งอยู่ระหว่างการอุทธรณ์ อย่างไรก็ตาม CPF ไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากภาะวะเศรษฐกิจสหรัฐถดถอยมากนัก เพราะมีสัดส่วนส่งออกไม่ถึง 10% ของรายได้รวม ขณะที่อียูมีมูลค่ส่งออกประมาณ  10% ของรายได้รวม 
          สำหรับเงินบาทแข็งค่า นายอดิเรก กล่าวว่า ทางบริษัทได้ทำประกันความเสี่ยงไว้ล่วงหน้า 6 เดือน ประกอบกับ ได้ต่อรองกับคู่ค้าขอปรับราคาขึ้นเฉลี่ย 20-30% ตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้นด้วย  แต่คาดว่าเงินบาทไม่น่าจะแข็งค่าไปมากกว่านี้แล้วโดยขณะนี้ค่าเงินบาทเริ่มนิ่งที่ 30 บาทกว่า/ดอลลาร์ หลังจากที่ทางการได้ยกเลิกมาตรการสำรอง 30% 
          ขณะที่ราคาอาหารสัตว์มีต้นทุนสูงขึ้นจากวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น จึงอยากให้ทางกระทรวงพาณิชย์พิจารณาปรับขึ้นราคาตามการปรับขึ้นของราคาวัตถุดิบ
          "จริงๆ สูตรอาหารสัตว์ตายตัวอยู่แล้ว กระทรววงพาณิชย์ก้มีอยู่แล้วและมีราคาอ้างอิง ราคาก็ถูกควบคุมมาหลายปี ก็ต้องขอความเห็นใจจากกระทรวงพาณิชย์ต้องยอมรับความจริงว่า ราคากากถั่วเหลือง ข้าวโพด ได้ปรับตัวขึ้นมาแล้ว" นายอดิเรก กล่าว 
*แนวโน้มราคาไก่ปรับขึ้น
          นายธีรศักดิ์ อุรุนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการบริหาร สายธุรกิจอาหารแปรรูปและครบวงจร CPF กล่าวว่า ขณะนี้ราคาไก่หน้าฟาร์ม อยู่ที่ 42 บาท/กก. สำหรับในกรุงเทพ ส่วนในต่างจังหวัดราคาอยู่ที่ 43-44 บาท/กก.  และมีแนวโน้มจะปรับตัวสูงขึ้นตามราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น ขณะที่ปัจจุบันต้นทุนไก่อยู่ที 33 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีต้นทุน 27 บาท/กก. ซึ่งราคาวัตถุดิบปรับเพิ่มขึ้นมาแล้ว 20-30% 
          สำหรับภาพรวมไก่ส่งออกปี 51 คาดว่าจะมีปริมาณส่งออก 3.5 แสนตัน จากปี 50 ที่มีปริมาณส่งออก 3.3 แสนตัน ส่วนมูลค่าส่งออกปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้น ไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อนที่มี 3.7 หมื่นล้านบาท 
          โดย CPF มีปริมาณส่งออกไก่แปรรูปที่ตลาดอียู ในปี 50 จำนวน 1.3 แสนตัน ในราคากก.ละ 120 บาท และปี 51 คาดว่าจะมีปริมาณส่งออกเพิ่มขึ้น 15% และราคาขายอยู่ที่ประมาณ  140-150 บาท/กก. 
          ทั้งนี้ ไทยมีโควต้าส่งออกไก่แปรรูปไปตลาดอียู จำนวน 1.6 แสนตัน สำหรับปี 51-52  โดย CPF มีโควต้าในจำนวน 4 หมื่นตัน 
          นายธีรศักดิ์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์น่าจะเริ่มเจรจากับทางอียูเรื่องโควต้าส่งออกไก่ และคาดว่าน่าจะได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 2 หมื่นตันต่อปี  โดยปัจจุบันไทยสามารถส่งออกไก่แปรรูปได้ตามมาตรฐาน Animal Welfare ของตลาดอียู และบริษัทพยายามทำมาตรฐานสูงกว่าที่ตั้งไว้
          ในวันนี้ CPF ได้ลงนามกับสถาบัน Animal Welfare Training แห่งมหาวิทยาลัยบริสตอล ประเทศอังกฤษ เพื่อจัดทำหลักสูตรการพัฒนาผู้เชี่ยวชาญด้านสวัสดิภาพสัตว์และคุณภาพสัตว์ปีก มีระยะเวลาดำเนินการ 2 ปี (ปี 51-53)โดยครอบคลุมการดูแลสวัสดิภาพสัตว์แบบครบวงจร เริ่มต้นจากฟาร์ม การขนส่ง โรงงานแปรรูป การประมเมินผลและการประกันคุณภาพในสวัสดิภาพสัตว์  ถือว่า CPF เป็นเอกชนรายแรกของโลกที่มหาวิทยาลัยบริสตอลร่วมลงนามจัดทำหลักสูตรนี้ ทั้งนี้ CPF ได้ส่งพนักงานเข้าร่วมโครงการ 40 คน