นักวิเคราะห์ฯ คาดแนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลง แม้เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ตามคาดแต่ส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อในระดับที่อาจสูงกว่าคาดกดดันดาวน์โจนส์ดิ่ง รวมทั้งจีนสั่งล็อกดาวน์เมืองเจิ้งโจวและโรงงานฟ็อกซ์คอนน์ แต่เชื่อตลาดหุ้นไทยลงไม่มาก และนักลงทุนหันมาสนใจงบ บจ.ไตรมาส 3/65 มากกว่า พร้อมให้แนวต้าน 1,631 และ 1,640 จุด แนวรับ 1,612 จุดหากไม่หลุดก็จะปรับขึ้นต่อได้
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลง แม้ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ตามคาด แต่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต่อและอาจปรับขึ้นในระดับสูงกว่าตลาดคาด ส่งผลตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลง โดยเฉพาะหุ้นเทคโนโลยีลงไปมาก แต่ตลาดหุ้นไทยมีหุ้นเทคโนโลยีไม่มากก็น่าจะลงน้อยกว่า ยกเว้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
ประกอบกับ จีนสั่งล็อกดาวน์พื้นที่โดยรอบโรงงานที่เมืองเจิ้งโจวเป็นเวลา 7 วันตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย.ไปจนถึงวันที่ 9 พ.ย. โดยโรงงานฟ็อกซ์คอนน์ ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ของแอปเปิลก็อยู่ในเมืองนี้ด้วย
นายถนอมศักดิ์ คาดว่า ตลาดหุ้นไทยคงไม่ลงไปแรงถึง 1% ขณะที่ตลาดหุ้นภูมิภาคปรับตัวลงกว่า 1% เนื่องจากนักลงทุนหันกลับมาให้ความสนใจผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่จะทยอยประกาศงบไตรมาส 3/65 วันนี้เป็นคิว ADVANC ซึ่งมีประเด็นที่ต้องติดตามเพิ่มเติมว่าบอร์ดจะตัดสินใจลงทุนใน JASIF อย่างไร
พร้อมให้แนวต้าน 1,631 และ 1,640 จุด ส่วนแนวรับ 1,612 จุด หากไม่หลุดก็จะขึ้นต่อได้
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (2 พ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,147.76 จุด ร่วงลง 505.44 จุด หรือ -1.55%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,759.69 จุด ลดลง 96.41 จุด หรือ -2.50% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,524.80 จุด ดิ่งลง 366.05 จุด หรือ -3.36%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 15,477.74 จุด ลดลง 349.43 จุด หรือ -2.21% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,981.20 จุด ลดลง 22.17 จุด หรือ -0.74% ตลาดหุ้นโตเกียวปิดทำการวันนี้ (3 พ.ย.) เนื่องในวันแห่งวัฒนธรรม
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (2 พ.ย.65.) ที่ระดับ 1,625.02 จุด ลดลง 0.71 จุด, -0.04%
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 81.86 ล้านบาท เมื่อวันที่ 2 พ.ย.65
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.(2 พ.ย.)เพิ่มขึ้น 1.63 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 90.00 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (2 พ.ย.) อยู่ที่ 3.23 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 37.85 อ่อนค่า หลังเฟดขึ้นดอกเบี้ยตามคาด มองกรอบ 37.70-37.95
- กกร.ห่วงปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจโลกถดถอยฉุดจีดีพีไทยปีหน้า คงประมาณการเศรษฐกิจ ไทยปีนี้ 3.0-3.5% รับแรงหนุนท่องเที่ยวฟื้น ธปท.ชี้เศรษฐกิจไทยปีหน้าเสี่ยงต่ำ 3% หากท่องเที่ยว ต่ำกว่า 19 ล้านคน "ศุภวุฒิ" ห่วงเงินไหลออก ส่วนต่างดอกเบี้ยไทยสหรัฐห่างขึ้น "อุตตม" แนะปรับงบประมาณปี 66 รับมือมรสุมเศรษฐกิจปีหน้า
- นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า จะเสนอต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หารือร่วมกับนายสีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ในโอกาสเข้าร่วมการประชุมเอเปก หยิบประเด็นการอนุญาตหรือปลดล็อกนักท่องเที่ยวจีนจากบางมณฑลให้เดินทางมาเที่ยวไทยได้
- สมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทยออกประกาศชี้แจงข้อเท็จจริงตามประกาศของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) หลังจากขณะนี้มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนเรื่องลดต้นลดดอก จะทำให้ดอกเบี้ยถูกลงและสามารถโปะหนี้ได้เหมือนการผ่อนบ้าน จนเกิดการชะลอซื้อก่อนประกาศมีผลหลังวันที่ 10 ม.ค.66 โดยยืนยันว่าการคิดคำนวณดอกเบี้ยไม่ได้เปลี่ยนระบบการคิดคำนวณแต่อย่างใด แม้จะเป็นการคิดแบบคงที่ตลอดอายุสัญญา แต่ได้แจ้งให้ลูกค้ารับรู้ค่างวดเป็นแบบลดต้นลดดอกอยู่แล้ว และยังมีเรื่องการโปะจ่ายหนี้เพื่อให้ได้ลดดอกเบี้ย ซึ่งความจริงคือต้องมาโปะเพื่อปิดบัญชีเท่านั้นแตกต่างจากสินเชื่อบ้านที่สามารถโปะระหว่างงวดได้
- นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยถึงความคืบหน้าการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงถึง 04.00 น. จากเดิม 02.00 น.คาดว่าจะเสนอ ครม.พิจารณาได้ในวันที่ 15 พ.ย.นี้ก่อนการประชุมเอเปค 2022 หาก ครม.เห็นชอบและกระทรวงมหาดไทยสามารถออกข้อยกเว้นได้ทันก็สามารถทำได้ทันทีเพราะพร้อมอยู่แล้วในพื้นที่ที่เสนอไป ได้แก่ ถนนบางลา ภูเก็ต กระบี่ พังงา สมุย พัทยา และกรุงเทพฯ ใน 3 พื้นที่ คือ ถนนข้าวสาร ซอยคาวบอย ซอยพัฒน์พงศ์ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ หาก ครม. เห็นชอบจะเริ่มนำร่องที่แรกที่ถนนบางลา จ.ภูเก็ต ก่อน
- ศาลรัฐธรรมนูญนัด 23 พ.ย.ตัดสิน กม.ลูกพรรคการเมืองขัด รธน.หรือไม่ ปธ.กกต.ส่งคำชี้แจงปมกฎหมายเลือกตั้งแล้ว แจงไม่ต้องคำนวณ ส.ส.พึงมีตาม ม.92-94 "บิ๊กป้อม" ปัดไม่รู้ "ธรรมนัส" บินดูไบ ไล่ให้ถามเจ้าตัวเอง "ผู้ตรวจการแผ่นดิน" ยันเร่งพิจารณา ไม่หนักใจรับเผือกร้อนขายที่ดินต่างชาติ "ศรีสุวรรณ" ฟ้องศาลปกครองเพิกถอนมติ ครม.
*หุ้นเด่นวันนี้
- SYNEX (ดาโอ) เป้าเชิงกลยุทธ์ 17.50 บาท ลุ้นราคาหุ้น Bottom out หลังปรับฐานสะท้อนความเสี่ยงไปแล้ว ด้าน Demand ช่วงปลายปีเริ่มฟื้น คาดการใช้จ่ายสำหรับเปลี่ยนอุปกรณ์จะเริ่มกลับมา ทยอยเพิ่มสินค้ากลุ่ม Gaming ซึ่งมีมาร์จิ้นสูงเข้ามา อาทิ Mouse, Keyboard, Gaming Headphone เป็นต้น รวมถึงรายได้อื่นจากการให้บริการ DAOL ประเมินกำไรสุทธิปี 2565-2566 ที่ 921 ลบ. และ 1038 ลบ. +7%YoY, +13%YoY ตามลำดับ
- BEM (กรุงศรี) "ซื้อ" เป้า 11.50 บาท เป็นหุ้นธีมเปิดเมืองที่ราคายัง Laggard, แนวโน้มกำไรฟื้นตัวตามจำนวนผู้เข้าใช้บริการทั้งทางด่วนและรถไฟฟ้าใต้ดิน และคาดจำนวนผู้เข้าใช้จะเพิ่มขึ้นแบบมีนัยยจากการเปิดใช้ศูนย์ประชุมฯ สิริกิติ์โฉมใหม่
- PR9 (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 21 บาท คาดกำไรไตรมาส 3/65 +7% Q-Q, +62% Y-Y นำโดยผู้ป่วยชาวไทยที่ไม่เกี่ยวเนื่องกับโควิด รวมถึงผู้ป่วยต่างชาติเร่งตัว ล่าสุดรายได้จากต่างชาติสูงกว่าช่วงก่อนโควิดแล้ว โดยผู้ป่วย Fly-in จะเป็นปัจจัยหนุนปีหน้า แนวโน้มกำไรไตรมาส 4/65 คาดยังแข็งแรงต่อเนื่อง คาดปี 65-66 กำไร +117% Y-Y และ +5% Y-Y ตามลำดับ ราคาหุ้นเทรด 2023PER ราว 25 เท่า ยังต่ำกว่า BDMS และ BH ที่ 35-40 เท่าอย่างมีนัย