บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) รายงานจำนวนผู้โดยสารเดือน ต.ค.22 อยู่ที่ 7.0 ล้านคน +431% YoY, +24% MoM จากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้นเป็น 3.1 ล้านคน +2,586% YoY, +21% MoM ตามการผ่อนคลายการเดินทางในหลายประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะจากญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และฮ่องกง ส่วนจำนวนผู้โดยสารในประเทศอยู่ที่ 3.9 ล้านคน +226% YoY, +27% MoM เนื่องจากมีวันหยุดยาวหลายวันช่วยหนุนการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศปรับตัวดีขึ้น
ดังนั้น มองบวกจากจำนวนผู้โดยสารที่ยังเติบโตได้โดดเด่นตามคาด โดยจำนวนผู้โดยสารรวมเดือน ต.ค.22 ที่ 7.0 ล้านคน คิดเป็น 7.3% จากเป้าของ AOT ทั้งปี FY23E ที่ 95.7 ล้านคน (+105% YoY) และคิดเป็น 59% เทียบกับจำนวนผู้โดยสารก่อนเกิดโควิดเดือน ต.ค.19 ที่ 11.8 ล้านคน โดยแบ่งเป็น
1) ผู้โดยสารระหว่างประเทศ 3.1 ล้านคน คิดเป็น 6.3% จากเป้า AOT ทั้งปี FY23E ที่ 48.5 ล้านคน (+249% YoY) และคิดเป็น 44% เทียบกับผู้โดยสารก่อนโควิดเดือน ต.ค.62 ที่ 6.9 ล้านคน
2) ผู้โดยสารในประเทศ 3.9 ล้านคน คิดเป็น 8.3% จากเป้า AOT ทั้งปี FY23E ที่ 47.2 ล้านคน (+44% YoY) และคิดเป็น 81% เทียบกับผู้โดยสารก่อนเกิดโควิดเดือน ต.ค.62 ที่ 4.9 ล้านคน
ทั้งนี้ ประเมินว่าจำนวนผู้โดยสารในช่วงที่เหลือของปีจะยังคงมีทิศทางที่ดีขึ้นต่อเนื่อง จากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวโดดเด่น รวมถึงเรายังประเมินว่าจีนจะเริ่มผ่อนคลายการเดินทางมากขึ้นในช่วงครึ่งปีแรกปี 66 ซึ่งจะทำให้จำนวนผู้โดยสารยังมีโอกาสฟื้นตัวได้เร็วกว่าคาดได้ รวมถึงจะทำให้ผลการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้นมากกว่าคาด
ปัจจุบันยังประเมินผลการดำเนินงานปกติงวดปี 66 (FY23E) จะเริ่มพลิกกลับมาเป็นกำไรได้ที่ 6.8 พันล้านบาท ดีขึ้นจากงวดปี 65 (FY22E) ที่จะขาดทุน -1.05 หมื่นล้านบาท จากผู้โดยสารที่เติบโตดีขึ้น และตั้งแต่ 1 เม.ย.23 AOT จะสิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ/สายการบิน ทำให้จะมีรายได้กลับมาเป็นปกติมากขึ้น โดยเฉพาะ king power ที่ชนะการประมูลดีวตี้ฟรีจะเริ่มจ่าย minimum guarantee
ยังคงแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 82.00 บาท อิง DCF (WACC = 7%, TG = 3.5%) โดยราคาหุ้น outperform SET +3% ในช่วง 3 เดือน จากการหลายประเทศผ่อนคลายการเดินทางเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้การท่องเที่ยวและผู้โดยสารฟื้นตัวดีขึ้น ซึ่งแนวโน้มจะยังคงเติบโตดีขึ้นต่อเนื่องในช่วง พ.ย.-ธ.ค.22 ขณะที่เรายังคงสมมติฐานว่าจีนจะเริ่มผ่อนคลายการเปิดประเทศครึ่งแรกของปี 2566