HILITE: ADVANC ลบ 0.52% โบรกฯลดคาดการณ์ปี 65-66 หลังงบ Q3 ต่ำคาด แต่ยังแนะ "ซื้อ"

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 4, 2022 11:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ADVANC ปรับตัวลง 0.52% หรือ ลดลง 1.00 บาท มาที่ 190.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 437.24 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.40 น. จากราคาเปิด 192.00 บาท ราคาสูงสุด 192.00 บาท ราคาต่ำสุด 190.00 บาท

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ว่า บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) ประกาศกำไรต่ำกว่าคาด โดยไตรมาส 3/65 อยู่ที่ 6 พันล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการของเราและตลาด 7% สาเหตุสำคัญคือค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวจากผลขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน และการดำเนินธุรกิจหลัก แต่หากไม่รวมผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน กำไรจากธุรกิจหลักจะอยู่ที่ 6.2 พันล้านบาท (-7% yoy, -6% qoq)

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานจากธุรกิจหลักที่ต่ำเกินคาด มาจากรายได้ที่ลดลงของบริการโทรมือถือถูกฉุดโดย ARPU ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง และยอดผู้ใช้บริการ prepaid ลดลงผิดคาดในไตรมาสนี้ โดยรายได้จากบริการมือถือในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ต่ำเกินคาดเพราะถูกกดดันจาก ARPU ทำให้กำไรสุทธิในงวด 9 เดือน คิดเป็น 71% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา ดังนั้น เราจึงปรับลดประมาณการกำไรปี 65-66 ลง 3.8% เหลือ 2.59 หมื่นล้านบาทในปี 65 และ 2.7 หมื่นล้านบาทในปี 66

อย่างไรก็ตาม คาดว่ากำไรสุทธิในไตรมาส 4/65 จะฟื้นตัวขึ้น qoq เนื่องจากเหตุผลสองข้อด้วยกัน ข้อแรกคือเราคาดว่าจำนวนผู้ใช้บริการ prepaid ในไตรมาสนี้จะไม่ลดลงอีกเหมือนในไตรมาสก่อน พราะสาเหตุสำคัญที่ทำให้ยอดผู้ใช้บริการ prepaid ลดลงในไตรมาส 3/65 (-138,000 รายจากไตรมาส 2/65) คือกำลังซื้อของผู้บริโภคหดตัวลง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้มีรายได้ต่ำถึงปานกลางและอัตรา churn rate เพิ่มขึ้นจากยอดขายซิมนักท่องเที่ยวที่สูงในไตรมาส 2/65 เรามองว่ากำลังซื้อที่ลดลงในไตรมาส 3/65 อาจจะเป็นผลพวงของสถานการณ์เงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นในประเทศไทย แต่เนื่องจากสถานการณ์เงินเฟ้อ กำลังคลายตัวลง ดังนั้น กำลังซื้อในไตรมาส 4/65 จึงน่าจะดีกว่าในไตรมาส 3/65 ส่วน churn rate ที่เพิ่มขึ้นน่าจะเป็นเพราะเป็นช่วงเหลื่อมจังหวะระหว่างที่มีนักท่องเที่ยวกลุ่มเดิมจำนวนมากเลิกใช้บริการไป และนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่เดินทางเข้ามาใช้บริการ ส่วนเหตุผลข้อที่สอง คือ แรงกดดันทางด้านต้นทุนพลังงานน่าจะลดลง qoq ในไตรมาส 4/65

บล.กรุศรี ยังคงคำแนะ "ซื้อ" ADVANC แม้ว่าผลประกอบการจะแผ่วลงในไตรมาส 3/65 ทั้งนี้ เนื่องจากเราปรับลดประมาณการกำไรของปี 65-66 เท่านั้น และราคาเป้าหมายอิงจากปลายปี 66 ดังนั้น จึงยังคงราคาเป้าหมายเอาไว้เท่าเดิมที่ 238 บาท โดยคาดว่ากำไรสุทธิในไตรมาส 3/65 จะเป็นจุดต่ำสุดของวัฏจักรขาลงรอบนี้

ขณะที่ บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ADVANC ประกาศกำไรไตรมาส 3/65 หดตัว 5.4.% YoY จากต้นทุนโครงข่ายและค่าใช้จ่ายการตลาดที่เพิ่มขึ้นมาก

แม้รายได้ค่าบริการไม่รวม IC จะเพิ่มขึ้น 1% YoY แต่เกิดจากรายได้ธุรกิจอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงที่เพิ่มขึ้น 21% YoY ตามจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้นมาก ชดเชยรายได้เฉลี่ยต่อราย (ARPU) ที่ลดลง YoY ส่วนรายได้บริการลูกค้าองค์กรและอื่นๆ ที่เพิ่มขึ้น 21% YoY จากดีมานด์ลูกค้าองค์กรที่เพิ่มขึ้นในด้านบริการคลาวด์ และ ICT solution ชดเชยรายได้บริการมือถือที่ลดลง 0.5% YoY เป็นผลจากรายได้เฉลี่ยต่อเลขหมายลดลงถึง 5.2.% YoY จากผลกระทบอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น และการแข่งขันด้านราคาอย่างต่อเนื่อง แต่ชดเชยได้เกือบทั้งหมดจากจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น 4.6% YoY มาอยู่ที่ 45.6 ล้านเลขหมาย ขณะต้นทุนบริการเพิ่มขึ้น 2% YoY ในอัตราที่มากกว่ารายได้ จากผลของการเร่งขยายโครงข่าย

อีกทั้งค่าใช้จ่าย SG&A เพิ่มขึ้นถึง 7.5%YoY หลักๆ มาจากค่าใช้จ่ายการตลาดที่เพิ่มขึ้น 27%YoY แม้จะชดเชยได้บางส่วนจากกำไรจากการขายมือถือที่สูงถึง 107 ล้านบาท จากผลบวก iPhone 14 ที่เริ่มเปิดจองปีนี้ตั้งแต่ 9 ก.ย. และขายอย่างเป็นทางการตั้งแต่ 16 ก.ย. เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 32 ล้านบาท เนื่องจาก iPhone 13 เริ่มขายในเดือนต.ค.64 ส่งผลให้กำไรปกติไตรมาส 3/65 อยู่ที่ 6,217 ล้านบาท ลดลง 7.4% YoY

อย่างไรก็ตาม ไตรมาส 3/65 มีขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนหลังภาษี 185 ล้านบาท เทียบกับไตรมาส 3 ปีก่อนที่มีรายจ่ายพิเศษหลังภาษี 342 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรสุทธิไตรมาส 3/65 อยู่ที่ 6,032 ล้านบาท ลดลง 5.4% YoY

ทั้งนี้ คงเป้ารายได้บริการปีนี้เติบโต 1-2% EBITDA คงที่ถึงลดลงเล็กน้อย โดยบริษัทมองแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังยังคงเปราะบางจากผลกระทบของภาวะเงินเฟ้อ และภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย จากการปรับขึ้นราคาพลังงานทั่วโลกเป็นผลสืบเนื่องจากสงครามรัสเซียรบกับยูเครน แต่ด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างประสบการณ์การใช้งานที่เป็นเลิศแก่ลูกค้า ทำให้บริษัทยังมั่นใจว่ารายได้บริการหลักในปีนี้เติบโตได้ 1-2% แต่ยังได้รับผลกระทบจากต้นทุนค่าสาธารณูปโภคที่ปรับตัวสูงขึ้น ค่าใช้จ่ายในการขยายฐานธุรกิจภายใต้สภาวะการแข่งขันที่รุนแรง รวมถึงค่าใช้จ่ายการตลาดที่สูงขึ้นภายใต้สภาวะการแข่งขันที่รุนแรง และการออกแคมเปญเพื่อขยายและรักษาฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง

บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ปรับลดประมาณการกำไรของ ADVANC ปีนี้และปีหน้าเฉลี่ยราวปีละ 5.5% ให้สอดคล้องกำไร 9 เดือนต่ำกว่ำคาด แม้เชื่อว่ากำไรไตรมาส 4/65 จะฟื้นตัวจากไตรมาส 3/65 ค่อนข้างมาก เนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาลที่คนใช้บริการมากกว่าปกติ ทั้งจากเทศกาลต่าง ๆ และมีช่วงวันหยุดยาวที่คนไทยนิยมท่องเที่ยวปลายปี บวกกับนักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มกลับมาคึกคักตั้งแต่ ต.ค.65 แล้ว

อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิ 9 เดือน ลดลง 7% YoY คิดเป็น 69% ของประมาณการการกำไรทั้งปี 65 จากผลกระทบรายได้เติบโตต่ำมาก อีกทั้งต้นทุนโครงข่ายและค่าใช้จ่ายการตลาดที่สูงเกินคาด ส่งผลให้ต้องปรับลดประมาณการกำไรปีนี้ลงจากเดิมราว 5.9% มาอยู่ที่ 25,377 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากปีก่อนหน้า 5.7% และคาดกำไรจะฟื้นตัวราว 8.7% ในปีหน้าตามการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจและภาคการท่องเที่ยว

บวกกับราคาหุ้นยังมี upside 22.7% จากมูลค่าพื้นฐานปี 66 อิงวิธี DCF ซึ่งอยู่ที่ 235 บาท อีกทั้งยังมี upside เพิ่มเติมจากหากดีล 3BB และ JASIF มีการปรับขอเพิ่มข้อเสนอและจูงใจผู้ถือหุ้น JASIF ได้สำเร็จ ยืนยัน "ซื้อ" และยังเลือกเป็น Top Pick กลุ่ม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ