HEMRAJ พุ่ง 6.72% โบรกฯแนะ"ซื้อเก็งกำไร"เล็งผลสรุปดีลกับทาทา-โรงไฟฟ้า

          หุ้น HEMRAJ ราคาวิ่งขึ้น 6.72% มาอยู่ที่ 1.43 บาท เพิ่มขึ้น 0.09 บาท มูลค่าซื้อขาย 45.57 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.16 น. โดยเปิดตลาดที่ 1.37 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1.44 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 1.37 บาท 
          ส่วนหุ้น HEMRAJ-W1 ราคาอยู่ที่ 1.07 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท(+10.31%)มูลค่าซื้อขาย 1.27 ล้านบาท
          บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.นครหลวงไทย (SCIBS)ประเมินหุ้น บมจ.เหมราชพัฒนาที่ดิน(HEMRAJ)แม้ผลการดำเนินงานใน Q1/51 มีแนวโน้มออกมาไม่โดดเด่นดังที่เคยคาดไว้แล้วจากการชะลอการโอนของลูกค้า แต่อย่างไรก็ดี Q2/51 คาดจะกลับมาแสดงผลโดดเด่นอย่างชัดเจน อีกทั้ง HEMRAJ ยังมีประเด็นการพิจารณาในขั้นตอนสุดท้ายของโรงไฟฟ้าถ่านหิน Gheco-one คาดจะทราบผลภายใน Q2/51 ซึ่งจะช่วยสร้าง upside ให้กับมูลค่าเหมาะสมอย่างมีนัยสำคัญ 
          นอกจากนี้ นิคม Hemraj ESIE ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่กำลังจะได้รับอนุมัติโครงการ Eco-car จาก BOI อีกด้วย ซึ่งทาทาได้แสดงความจำนงเบื้องต้นไว้แล้ว โดยประเมินมูลค่าเหมาะสมด้วยวิธี PEG 12x ได้ราคาเหมาะสม 1.46 บาท/หุ้น คงคำแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร" บนสมมติฐานยอดขายที่ดิน 1,087 ไร่ และมีแนวโน้มปรับประมาณการ และคำแนะนำขึ้นหลังการสรุปดีลกับทาทาและโรงไฟฟ้า
          เช้านี้ หนังสือพิมพ์ ระบุว่า HEMRAJ เตรียมเปิดกรุสมบัติรับทรัพย์ทาทามอเตอร์ยึดนิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด ระยองผุดโครงการอีโคคาร์มูลค่า 7,317 ล้านบาท ด้าน“สวัสดิ์ ห่อรุ่งเรือง"ผู้บริหารคาดขายที่ได้ 300 ไร่ หลังการเจรจาผ่านไปแล้วครึ่งทาง เตรียมปรับเป้าขายที่ดินใหม่ครึ่งปีหลัง จากครึ่งแรกฟันยอดขายใกล้ทะลุเป้าเดิม 1,300 ล้านบาท 
          SCIBS มีความเห็นว่า ผู้บริหารเผยได้เจรจากับทาทามอเตอร์จากอินเดียไปแล้วครึ่งทาง และเตรียมปรับเป้าขายที่ดินเพิ่มจาก 1,300 ไร่ใน 2H/51 นอกจากนี้ยังเผยถึงยอดขายที่ดิน 600 ไร่ แล้วอีกด้วย 
          หลังบอร์ด BOI ได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุนในรถยนต์ประหยัดพลังงาน (Eco-car) วานนี้ 3 โครงการ ในแผนของทาทานั้น ได้ระบุถึงการตั้งฐานการผลิตในนิคมอิสเทอร์ซีบอร์ด (ระยอง) โดยจะเริ่มผลิตในปี 2553 แต่ทว่าทางทาทายังมิได้ยืนยันถึงปริมาณ 300 ไร่ดังเป็นข่าว ซึ่งหากเป็นจริง  SCIBS คาดจะให้ส่วนเพิ่มต่อ EPS ราว +0.023 บาทต่อหุ้น
          โดยมีมุมมอง “บวก" ประเด็นดังกล่าว ยอดขายที่ดิน 600 ไร่ คิดเป็น 60% ของประมาณการทั้งปี ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะต้องมีการปรับประมาณการขึ้นอีก หากดีลกับทาทาสรุปได้จริง อย่างไรก็ดีประเด็นด้านภาษีการโอนที่จะเริ่มเห็นผลใน Q2/51 คาดจะทำให้การโอนเพื่อปิดโครงการ The Park Chidlom ก้อนที่เหลือราว 1,000 ล้านบาท จะไปบันทึกใน Q2/51 แทน จากการชะลอการโอน เพื่อรับประโยชน์จากประเด็นภาษีดังกล่าว ซึ่งจะทำให้ผลการดำเนินงานใน Q1/51 อ่อนตัวลง qoq ได้