นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยผลการสำรวจความคิดเห็นผู้บริหาร (CEO Survey) ต่อ Economic Outlook ปี 2565-2566 ว่า CEO เปลี่ยนมุมมองต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยส่วนใหญ่หรือ 80% ของ CEO ที่ตอบแบบสอบถามคาดว่าเศรษฐกิจในปี 2565 และ 2566 จะดีขึ้น โดยคาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะเติบโตที่ 2-3% ด้วยปัจจัยสนับสนุนสำคัญคือ การท่องเที่ยว การส่งออก และการฟื้นตวของเศรษฐกิจโลก ขณะที่เงินเฟ้อ ราคาน้ำมัน ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทย อย่างไรก็ตาม คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตต่อเนื่องในปี 2566 ที่ระดับ 3-4%
CEO ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าทิศทางอุตสาหกรรมในปี 2565 ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2564 และคาดว่ากำไรของบริษัทในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 จะดีกว่าครึ่งแรกของปี โดย 50% ของ CEO ที่ตอบแบบสอบถาม คาดว่ารายได้ในปี 2565 จะเติบโต 10% ขึ้นไป ส่วนใหญ่เป็นบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากสถานการณ์การเปิดประเทศ โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจการแพทย์ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้มีธุรกิจที่เป็นแหล่งเงินทุนของกิจการต่างๆ เช่น ธุรกิจธนาคาร เป็นต้นและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการกลับมาใช้ชีวิตรูปแบบปกติ อาทิ ธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ ธุรกิจแฟชั่น ธุรกิจของใช้ในครัวเรือนและสำนักงาน
CEO ส่วนใหญ่คาดว่าในปี 2565 ต้นทุนการผลิตทุกประเภท ทั้งราคาพลังงาน วัตถุดิบ ค่าแรง ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาสินค้าและบริการปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่สภาพคล่องธุรกิจและการจ้างงานอยู่ในระดับเดิม
ในปี 2565 CEO มีความวิตกสูงสุด 3 อันดับแรก ซึ่งมีความเปลี่ยนแปลงชัดเจนจากทุกครั้งที่ผ่านมา โดยครั้งนี้กังวลคือต้นทุนวัตถุดิบ ขยับขึ้นมาอันดับ 1 และต้นทุนราคาเชื้อเพลิง เป็นอันดับ 2 จากเดิมอยู่ที่อันดับที่ 4 และ 5) ขณะที่อันดับ 3 ได้แก่ กำลังซื้อในประเทศ ที่ลดลงจากอันดับ 1 จากการสำรวจครั้งก่อน