นางจินตณา กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน บมจ.สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ (SGP) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4/65 คาดว่ายังมีการเติบโตที่ดี ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจหนุนผลงานทั้งปีเติบโตได้ตามแผน โดยบริษัทยังคงวางเป้าหมายปริมาณการจำหน่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ทั้งปี 2565 ไว้ที่ 3.65 ล้านตัน หรือเติบโตขึ้น 11% จากปี 2564 ซึ่งในช่วงโค้งสุดท้ายจะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น คาดว่ายอดขายจะสามารถเป็นไปได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ได้อย่างแน่นอน และคาดว่ารายได้ทั้งปีจะสามารถแตะ 100,000 ล้านบาทได้
สำหรับแผนการลงทุน ก่อนหน้านี้คณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติให้เข้าซื้อเงินลงทุนในหุ้นของบริษัท ประสานสักแก๊ส จำกัด ผู้เดียว หรือ ประสานสักแก๊ส ซึ่งดำเนินธุรกิจก๊าซ LPG ในประเทศ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เข้าลงทุนในสัดส่วน 100% ในมูลค่า 15 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทฯ มีวัตถุประสงค์ที่จะขยายตลาดก๊าซ LPG ในต่างประเทศ ให้ครอบคลุมทั่วภูมิภาคเอเชีย ซึ่งในขั้นแรกมีแผนจะเข้าลงทุนให้ครบทุกประเทศในกลุ่ม CLMV โดยขณะนี้มีการลงทุนในเวียดนาม และเมียนมา และล่าสุดที่สปป.ลาวแล้ว โดยเป้าหมายต่อไปที่บริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษาที่จะเข้าไปลงทุนคือ ประเทศกัมพูชา ซึ่งมีความต้องการที่จะเข้าลงทุนในธุรกิจก๊าซ LPG เช่นกัน
ส่วนผลประกอบการของบริษัทฯ ในงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่จำนวน 1,111.43 ล้านบาท ลดลง 60.54% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,816.74 ล้านบาท ซึ่งได้รับผลกระทบจากราคาก๊าซ LPG ตลาดโลก ที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่องตั้งแต่เดือนพ.ค. 2565 ที่ผ่านมา ในส่วนของรายได้จากการขาย การขนส่งและการให้บริการ 75,902.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21,210.95 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 38.78%
ขณะที่ผลประกอบการในงวดไตรมาส 3 ปี 2565 ของบริษัทฯ และบริษัทย่อย มีผลขาดทุนสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่จำนวน 54.15 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2564 ที่มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่จำนวน 1,320.68 ล้านบาท กำไรสุทธิลดลง 104.10% สาเหตุจากราคาก๊าซ LPG ในช่วงไตรมาสที่ 3/2565 ปรับตัวลดลง 110 เหรียญสหรัฐต่อเมตริกตัน ซึ่งในช่วงเดียวกันของปีก่อนราคาก๊าซ LPG ปรับตัวเพิ่มขึ้น 137.50 เหรียญสหรัฐต่อตัน จึงส่งผลกระทบต่อผลกำไรที่ปรับตัวลดลงมา