TKN พุ่ง 29.17% หรือเพิ่มขึ้น 2.10 บาท มาที่ 9.30 บาท มูลค่าซื้อขาย 496.08 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.23 น. จากราคาเปิด 9.35 บาท ราคาสูงสุด 9.35 บาท ราคาต่ำสุด 8.80 บาท
บมจ.เถ้าแก่น้อย ฟู้ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง (TKN) เผยกำไรสุทธิในไตรมาส 3/65 อยู่ที่ 180 ล้านบาท โตขึ้น 835% จากไตรมาส 3/64 มีกำไรสุทธิที่ 19.3 ล้านบาท และในงวด 9 เดือนปี 65 มีกำไรสุทธิ 313.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 221% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 97.7 ล้านบาท
บริษัทฯ มีรายได้จากการขายไตรมาสที่ 3 จำนวน 1,208.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.5% จากไตรมาสเดียวกันปีที่ผ่านมา (เพิ่มขึ้น 26.1% จากไตรมาส 2/65) และมีรายได้จากการขาย 9 เดือนแรกรวมทั้งสิ้น 3,135.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
ทั้งนี้ ยอดขายไตรมาส 3 ที่ 1,208.7 ล้านบาท นับเป็นไตรมาสที่บริษัทฯสามารถกลับมาสร้างยอดขายสูงสุดในช่วงสามปีที่ผ่านมานับตั้งแต่มีสถานการณ์โควิด-19 ในต้นปี 2563 โดยเป็นการเติบโตที่แข็งแรงทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งเป็นการเติบโตทั้งจากสินค้าใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มสาหร่ายอบควบคู่ไปกับการเติบโตจากการขยายช่องทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย และเวียดนาม ที่มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในปีนี้
ทั้งนี้ การเติบโตที่ดีขึ้นนี้ มาจากทั้งปัจจัยภายนอกจากสถานการณ์โควิดที่ผ่อนคลายขึ้นทำให้ผู้บริโภคเริ่มกลับมาใช้จ่ายและเริ่มมีปริมาณนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงปัจจัยภายในของบริษัทฯในการมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพของการผลิตควบคู่ไปกับการบริหารค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการขายและการตลาดให้มีประสิทธิผลสูงสุดในกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นเป้าหมายทั้งในช่องทางออนไลน์และออฟไลน์
ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 นี้ บริษัทฯยังคงคาดว่าการฟื้นตัวของยอดขายทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศจะเป็ นไปอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มมีแรงผลักดันของยอดขายจากจำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศไทยและอีกหลายๆ ประเทศที่เพิ่มขึ้นด้วย บริษัทมุ่งเน้นการสร้างนวัตกรรมสินค้าใหม่รวมถึงสินค้าที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่เริ่มกลับมาในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้
ส่วนสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศจีนแม้จะเริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่นักท่องเที่ยวจีน ยังคงไม่กลับมาในไตรมาส 4 นี้ เนื่องจากรัฐบาลจีนยังคงนโยบายโควิดเป็นศูนย์(ZERO COVID-19) ต่อไป
อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ได้ทำการตลาดเพื่อเพิ่มยอดขายในตลาดต่างประเทศอื่นๆ ที่มีศักยภาพการเติบโตที่ดี โดยมุ่งเน้นเรื่องของการขยายฐานลูกค้าและสินค้าใหม่ๆ นอกจากนี้ แนวโน้มสถานการณ์การขนส่งทางเรือที่ดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3 นี้ จะทำให้การจัดหาตู้คอนเทนเนอร์ในการส่งออก เป็นไปได้อย่างเพียงพอและมีต้นทุนค่าขนส่งที่ควบคุมได้
ส่วนเรื่องต้นทุนของวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์ที่ยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็ยังคงเป็นสิ่งที่บริษัทฯมุ่งเน้นในการบริหารจัดการด้วยการชดเชยกับการจัดการต้นทุนการผลิตต่อหน่วยที่ลดลงจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายได้ในครึ่งปีหลังและบริษัทฯจะยังคงไม่มีการปรับราคาสินค้าในปีนี้ ทั้งนี้ นโยบาย GO FIRM ในการบริหารค่าใช้จ่ายภายในให้มีประสิทธิภาพสูงสุดโดยไม่ให้ส่งผลต่อภาพรวมของกำไร ก็ยังคงเป็นสิ่งที่บริษัทฯมุ่งเน้นและดำเนินการไปอย่างต่อเนื่องทั้งในปีนี้ และปีหน้าอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ TKN ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ครั้งที่ 2 ในอัตราหุ้นละ 0.08 บาท สำหรับงวดดำเนินงานวันที่ 01 ก.ค. 2565 ถึงวันที่ 30 ก.ย. 2565