ตลาดหลักทรัพย์ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ 1,622.95 จุด เพิ่มขึ้น 0.50 จุด (+0.03%) มูลค่าการซื้อขายราว 33,667.81 ล้านบาท
การซื้อขายในช่วงเช้านี้ ดัชนีดิ่งลงช่วงเปิดตลาดก่อนฟื้นตัวขึ้น โดยทำระดับสูงสุด 1,623.97 จุด และต่ำสุด 1,611.17 จุด
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการอาวุโสและนักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับสำคัญที่ 1,612 จุด โดยได้รับแรงกดดันจากการรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาต่ำกว่าคาด และ Sentiment การลงทุนในต่างประเทศที่ไม่ดีนัก แต่อย่างไรก็ตามดัชนีค่อยๆฟื้นตัวขึ้นมา เนื่องจากมีปัจจัยหนุนจากเงินทุนต่างชาติที่ยังคงไหลเข้ามายังประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง การปรับตัวลดลงจึงเป็นจังหวะของการเข้าซื้อ
โดยยังต้องรอติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐที่จะเปิดเผยในคืนนี้ ซึ่งคาดว่าจะขยายตัวในทิศทางที่ชะลอตัวลดลง ที่ระดับ 7.9% หากออกมาต่ำกว่าระดับดังกล่าวก็จะเป็นปัจจัยที่หนุนดัชนีตลาดหุ้นได้เพิ่มเติม
แนวโน้มช่วงบ่ายคาดว่าดัชนีฯ มีโอกาสที่จะแกว่งตัวในทิศทางขาขึ้นได้ จากค่าเงินบาที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง เงินทุนต่างชาติยังมีทิศทางไหลเข้า และ ภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศมีทิศทางฟื้นตัว พร้อมให้แนวรับที่ 1,612 จุด และ แนวต้าน 1,630 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,949.64 ล้านบาท ปิดที่ 190.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,803.37 ล้านบาท ปิดที่ 34.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,222.90 ล้านบาท ปิดที่ 12.50 บาท ลดลง 0.10 บาท
THG มูลค่าการซื้อขาย 1,099.94 ล้านบาท ปิดที่ 74.00 บาท ลดลง 1.75 บาท
BH มูลค่าการซื้อขาย 949.57 ล้านบาท ปิดที่ 232.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท