นายธีรวัฒน์ ธวัลรัตน์โภคิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายบัญชีและการเงิน บมจ.เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล (HENG) เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมในช่วงที่เหลือของปี 65 คาดว่าจะมีการเติบโตที่กว่าไตรมาส 3/65 และ ดีกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน โดยได้รับปัจจัยหนุนหลักจากเศรษฐกิจในประเทศที่กลับมาฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง หลังจากการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ช่วยให้การจ้างงาน สร้างอาชีพ และมีความต้องการใช้สินเชื่อเพื่อเพิ่มเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจอีกครั้ง
ทั้งนี้บริษัทคาดว่าพอร์ตสินเชื่อคงค้างรวม ณ สิ้นปี 65 จะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 25-30% จากปีก่อน หลังจากที่ช่วงสิ้นไตรมาส 3/65 บริษัทมีพอร์ตสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ระดับ 11,271.9 ล้านบาท ซึ่งเติบโตกว่า 22.8% เมื่อเทียบกับช่วงสิ้นปี 64 ที่มีขนาดพอร์ตอยู่ที่ประมาณ 9,182.5 ล้านบาท โดยบริษัทได้ให้ความสำคัญในการคัดกรองลูกค้าที่มีคุณภาพอย่างรัดกุม เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดหนี้สงสัยจะสูญที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งปัจจุบันบริษัทสามารถรักษาระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ที่ 3% ซึ่งดีกว่าเป้าหมายที่วางไว้ระดับ 3.1%
นอกจากนี้บริษัทยังคงเดินหน้าขยายสาขาอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา โดย ณ สิ้นไตรมาส 3/65 บริษัทมีจำนวนสาขาตามเป้าหมายปี 65 ที่วางไว้แล้ว โดยมีทั้งหมด 638 สาขา ซึ่งในช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทจะมีการศึกษาและพิจารณาพื้นที่ที่มีศักยภาพใหม่ที่จะเข้ามาหนุนความสามารถในการเข้าถึงแหล่งชุมชนและช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการสินเชื่อของบริษัทได้มากยิ่งขึ้น เป็นการสร้างฐานลูกค้าใหม่ๆและจะเดินหน้าการขยายสาขาใหม่ในช่วงต้นปี 66
"จากการกลับมาเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ เป็นปัจจัยหนุนให้ภาคเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ภาคธุรกิจต่างๆกลับมาดำเนินการได้มากขึ้น เกิดการจ้างงาน สร้างอาชีพ จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มีความต้องการสินเชื่อเพื่อมาเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการมากขึ้น เป็นส่วนที่หนุนการเติบโตของบริษัทในช่วงที่ผ่านมาและช่วงที่เหลือของปีนี้"นายธีรวัฒน์ กล่าว
สำหรับกรณีที่ทางสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ต้องการควบคุมอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อ ที่จะมีผลบังคับใช้ภายใน 10 ม.ค. 66 หลังจากที่คณะกรรมการว่าด้วยสัญญาและคณะกรรมการ สคบ. เสนอให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเตรียมประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งกำหนดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อต่อปีสำหรับรถยนต์ใหม่ไม่เกิน 10% ส่วนรถยนต์มือสองไม่เกิน 15% และรถจักรยานยนต์ไม่เกิน 23% นั้น บริษัทได้มีการเตรียมความพร้อมรับมือมาระยะหนึ่งแล้ว อีกทั้งด้วยอัตราดอกเบี้ยที่บริษัทให้ในปัจจุบันอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงเกณฑ์ของ สคบ. กำหนด ทำให้มองว่าจะไม่กระทบต่อ NIM และ Yield ของบริษัท