ปัจจุบันบริษัทได้เปิดให้บริการสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ "เงินไชโย" มาแล้วเป็นระยะเวลากว่า 4 เดือน ซึ่งได้รับเงินทุนสนับสนุนจาก SCB เพื่อรองรับการปล่อยเชื่อในปีแรกราว 9 พันล้านบาท และทาง SCB มีความพร้อมในการสนับสนุนด้านเงินลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยเสริมความแข็งแกร่งและผลักดันการเติบโตให้กับบริษัท
นางอภิพันธ์ กล่าว่า ตลาดสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยังมีโอกาสเติบโตสูง เนื่องจากยังมีกลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินของธนาคารค่อนข้างมาก อีกทั้งตลาดปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยังมีผู้เล่นน้อย ทำให้การแข่งขันไม่รุนแรง นอกจากนั้นยังไม่ได้รับผลกระทบของเกณฑ์เพดานอัตราดอกเบี้ยเหมือนกลุ่มลีสซิ่ง ทำให้ยังได้อัตราดอกเบี้ยที่มีผลตอบแทนสูง
ประกอบกับ จำนวนรถที่ยังไม่ได้นำเล่มทะเบียนมาจำนำทะเบียนยังมีอยู่มากถึง 10 ล้านคันในตลาด ทำให้ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก และเป็นสินเชื่อที่มีหลักประกันจึงมีความเสี่ยงต่ำ ทำให้ความกังวลการเกิดหนี้เสียมีน้อยมาก เพราะส่วนใหญ่กลุ่มลูกค้าจะมีวินัยในการผ่อนชำระ และจากการมีทะเบียนเป็นหลักประกันทำให้สามารถนำไปขายทอดตลาดได้ ส่งผลให้ความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อค่อนข้างต่ำ
"บริษัทมีความตั้งใจในการเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินของธนาคารได้ สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้ เพราะกลุ่มลูกค้าของเงินไชโยส่วนใหญ่จะเป็นคนตัวเล็ก เรามีความต้องการในการช่วยเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสภาพคล่องให้กับกลุ่มลูกค้ารายเล็กๆ และเมื่อเราแยกออกมาจากแบงก์ ทำให้เราสามารถเข้าถึงลูกค้ารายย่อยๆได้หลากหลายมากขึ้น และปลดล็อกข้อจำกัดในการทำงานของเราที่รวดเร็วมากขึ้น" นางอภิพันธ์ กล่าว
สำหรับการขยายสาขา "เงินไชโย" ในปี 66 วางแผนขยายเพิ่มอีก 1,000 สาขา จากปัจจุบันที่มีจำนวนสาขาแล้ว 1,200 สาขา โดยเน้นการเข้าถึงพื้นที่ระดับตำบลทั่วประเทศ หลังจากช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาขยายสาขาครอบคลุมระดับอำเภอแล้ว ทั้งนี้ เพื่อเข้าถึงลูกค้าได้ทั่วถึงมากขึ้น และเพิ่มความสะดวกในการขอสินเชื่อ กรณีนำรถยนต์และมอเตอร์ไซด์มาตรวจสอบในการพิจารณาวงเงินสินเชื่อ ควบคู่ไปกับการให้บริการสมัครสินเชื่อผ่านช่องมางออนไลน์ทั้งแอปพลิเคชั่น และ LINE Connect เงินไชโย ซึ่งปัจจุบันมีฐานลูกค้าดาวน์โหลดกว่า 100,000 ดาวน์โหลด และมีฐานสมาชิก LINE Connect กว่า 200,000 ราย
นอกจากนี้ บริษัทยังมีบัตรกดเงินไชโยที่เป็นการเพิ่มความสะดวกในการกดเงินนำมาใช้ของลูกค้าได้สะดวก หากลูกค้าไม่ได้กดมาใช้ไม่ต้องเสียดอกเบี้ย และความพิเศษของเงินไชโยที่มอบให้กับลูกค้าเป็นการให้สินเชื่อควบคู่ไปกับประกันสินเชื่อ ซึ่งทำให้ลูกค้าลดความเสี่ยงกรณีที่ไม่สามารถชำระคืนเงินสินเชื่อได้ และภาระหนี้สินไม่ได้ส่งต่อไปยังลูกหลาน ทำให้ช่วยลูกค้าและบริษัทในการลดความเสี่ยงได้
ขณะเดียวกันในส่วนของผลประกอบการของบริษัท ออโต้ เอกซ์ จำกัด คาดว่ามีโอกาสเริ่มมีกำไรได้ภายในช่วงปี 66 หรือปี 67 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นไปตามแผนงานของบริษัทที่จะเริ่มมีกำไรหลังจากเริ่มดำเนินงานเป็นระยะเวลา 2 ปี พร้อมกับตั้งเป้าขึ้นแท่นเป็น Top 3 ในกลุ่มสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ภายในปี 68 หรือมีพอร์ตสินเชื่อแตะ 7 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะมีสาขารวมกว่า 3 พันสาขา และมีกำไรราว 3 พันล้านบาท และตั้งเป้าควบคุมสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อไห้เกิดรายได้ (NPL) ไม่เกิน 2%
บริษัทยังมองไปถึงการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายในช่วงปี 68-70 เพื่อผลักดันการเติบโตให้สูงขึ้น ส่วนการเพิ่มผลิตภัณฑ์สินเชื่อใหม่ๆใ นอนาคตจะมีการเพิ่มเข้ามาเพื่อให้มีความผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่หลากหลายรองรับความต้องการของลูกค้าในหลากหลายกลุ่ม ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่บริษัทสนใจและมีการศึกษา ได้แก่ สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อรถยนต์มือสอง และสินเชื่อรถจักรกลการเกษตร เป็นต้น