นายพิศณุ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บมจ. ซันเวนดิ้ง เทคโนโลยี (SVT) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3/65 บริษัทฯ มีรายได้รวม 594.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.08% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ มีรายได้รวม 482.68 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 27.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 106.03% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนปี 65 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,679.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.44% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 1,455.30 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 72.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.73% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการขายสินค้าผ่านเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติเป็นหลัก ที่บริษัทฯ ได้ขยายพื้นที่การติดตั้งเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติให้บริการตามสถานที่บริการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ในปีนี้ SVT ได้มีการขยายสาขาบริการเพิ่ม 3 สาขา ประกอบด้วย สาขาลำพูน สาขาอุบลราชธานี และสาขาชลบุรี 2 ทำให้ปัจจุบัน บริษัทฯ มีศูนย์กระจายสินค้า 14 แห่ง แบ่งเป็นสาขา 12 แห่ง และสาขาย่อย 2 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการกว่า 30 จังหวัด ซึ่งเมื่อสิ้นสุดไตรมาส 3 บริษัทได้ติดตั้งเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติกระจายอยู่ในสถานที่ต่างๆ รวม 15,400 เครื่อง เมื่อเปรียบเทียบกับสิ้นปี 2564 ได้ติดตั้งเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติเพิ่มขึ้น จำนวน 772 เครื่อง เพิ่มขึ้น 5.28% และเมื่อเปรียบเทียบกับสิ้นไตรมาส 3 ปี 2564 ได้ติดตั้งเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติเพิ่มขึ้น จำนวน 1,179 เครื่อง เพิ่มขึ้น 8.29%
ปัจจุบัน SVT ให้บริการเครื่องจำหน่ายสินค้นอัตโนมัติ 4 รูปแบบหลัก ประกอบด้วย เครื่องขายสินค้าเครื่องดื่ม (Can & Botle), เครื่องขายสินค้าเครื่องดื่มและขนม (Glass front), เครื่องถ้วยแบบร้อนเย็น (Cup Hot and Cold), และเครื่องสำหรับขายอาหารกึ่งสำเร็จรูป (Noodle) ซึ่งสินค้าที่จำหน่ายผ่านเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติจะเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค ได้แก่ เครื่องดื่ม ขนมขบเคี้ยว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและสินค้าอื่นๆ เช่น หน้ากากอนามัย ขนมปังเบเกอรี่ เป็นต้น รวมแล้วมีสินค้ากว่า 700 รายการ (SKU) ซึ่งเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติของบริษัทรองรับการชำระเงินทั้งแบบเงินสด (Cash) และไร้เงินสด (Cashless)
ทั้งนี้ ในปี 65 SVT มีนโยบายขยายพื้นที่ให้บริการในการติดตั้งเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติใน Segment ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เช่น ปั๊มน้ำมัน สถานีรถไฟฟ้า เช่น MRT BTS และแอร์พอร์ตลิ้งค์ คอนโดมิเนียม เป็นต้น เพื่อให้สอดรับกับ Life Stye ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในยุค New Normal เช่น คนทำงานพักอาศัยในคอนโดมีเนียมในเมือง การเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะเพื่อความรวดเร็ว การขยายธุรกิจร้านค้าปลีกในปั๊มน้ำมัน เป็นต้น
"ในโค้งสุดท้ายของปี บริษัทฯ จะเร่งดำเนินงานตามแผนกลยุทธ์ที่วางไว้ ในการขยายเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติให้ได้ตามเป้า พร้อมคงเป้าหมายรายได้เติบโต 13-15% จากปี 2564" นายพิศณุ กล่าว