นางเสาวลักษณ์ ถิฐาพันธ์ ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มธุรกิจค้าส่ง บมจ.สยามแม็คโคร(MAKRO) เปิดเผย ผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2565 ของบริษัทฯ ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยธุรกิจค้าส่งแม็คโคร มียอดขายที่เพิ่มขึ้นจากสาขาเดิมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น กัมพูชา เมียนมา อินเดีย การขยายสาขาใหม่ระหว่างปี และการขายผ่านช่องทางออนไลน์
นอกจากนี้ธุรกิจฟูดเซอร์วิสยังมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวของธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจจัดเลี้ยง ขณะที่กลุ่มค้าปลีกโลตัส เติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกช่องทางการจำหน่าย โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ของ โลตัส ประเทศไทย ที่เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 60% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน รวมถึงรายได้จากพื้นที่เช่าและการให้บริการศูนย์การค้า
ส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้รวมในไตรมาส 3/65 อยู่ที่ 115,559 ล้านบาท เติบโตขึ้นถึง 110.2% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งหากรวมผลประกอบการตลอด 9 เดือนที่ผ่านมาของปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 345,444 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 108.1% ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 5,225 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.8% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ส่วนในไตรมาส 3/65 กำไรสุทธิอยู่ที่ 1,602 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ 1,572 ล้านบาท
"กลยุทธ์นับจากนี้ บริษัทฯ ยังคงเน้นย้ำการเป็นผู้นำการจำหน่ายอาหารสด อีกทั้งยังวางแผนการขยายสาขาในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้เปิดสาขาใหม่ในจังหวัดอุตรดิตถ์ อินเดีย และจีน นอกจากนั้นยังเน้นการพัฒนาและสร้างยอดขายผ่านช่องทาง O2O มุ่งสู่การเป็นผู้นำ Omni-Channel คาดว่าในช่วงไตรมาส 4 นี้ ธุรกิจจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ผนวกกับปัจจัยบวกของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว รวมถึงลงทุนพัฒนาระบบออนไลน์เพื่อสนองตอบความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อขับเคลื่อนให้เกิดการเติบโต พร้อมส่งเสริม SME และเกษตรกรรายย่อย ด้วยแพลตฟอร์มแห่งโอกาส" นางเสาวลักษณ์ กล่าวทิ้งท้าย