นางศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บริทาเนีย (BRI) เปิดเผยว่า บริษัทสามารถทำผลประกอบการได้อย่างก้าวกระโดดจากการดำเนินตามแผนกลยุทธ์ Growth Together ที่มุ่งสร้างการเติบโตต่อเนื่องไปด้วยกัน โดยสะท้อนได้จากผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากความเชื่อมั่นในศักยภาพของบริษัทอสังหาแนวราบฯ ที่น่าจับตามอง และได้รับความสนใจจากพันธมิตรต่างชาติ (JV) ร่วมทุนพัฒนาโครงการในไตรมาส 3/65 เพิ่มอีก 1 โครงการ คือ แกรนด์ บริทาเนีย บางนา กม.35 มูลค่าโครงการ 2.5 พันล้านบาท ส่งผลให้มีรายได้รวมในไตรมาส 3/65 และสะสม 9 เดือน ปี 65 อยู่ที่ 1,420.6 ล้านบาท และ 4,555.5 ล้านบาท ตามลำดับ เพิ่มขึ้น 35.6% และ 62.2% ตามลำดับ
โดยเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอีกทั้งยังวางแผนรับมือกับสถานการณ์ได้เป็นอย่างดีจึงสามารถควบคุมต้นทุน ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้มีกำไรสุทธิในไตรมาส 3/65 และสะสม 9 เดือน ปี 65 อยู่ที่ 330.6 ล้านบาท และ 1,059.4 ล้านบาท ตามลำดับ เพิ่มขึ้น 100.8% และ 134.2% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ การเติบโตดังกล่าวมาจากการขยายตลาดสู่ทำเลใหม่ๆ ที่มีศักยภาพการเติบโตสูง และพื้นที่ที่ได้รับอานิสงส์จากการค้าและลงทุน อีกทั้งภาพรวมเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวหลังจากเปิดประเทศ จะทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
แม้ว่าที่ผ่านมาภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เผชิญกับความท้าทาย และปัจจัยที่ส่งผลต่อภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีจนกระทั่งในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ไม่ว่าจะเป็น สภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่, อัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง, ต้นทุนค่าก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 1% ต่อปี และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และจากประกาศไม่ต่ออายุมาตรการผ่อนคลายหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (มาตรการ LTV) อาจส่งผลกระทบกับตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบเพียงเล็กน้อย เนื่องจากเป็นกลุ่มผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง (Real Demand) อีกทั้งยังเป็นโอกาสทองและการกระตุ้นของตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ช่วยเร่งการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคอีกด้วย
บริษัทยังได้เสริมกลยุทธ์สร้างความแข็งแกร่ง ได้แก่ การร่วมมือกับธนาคารชั้นนำทั้งภาครัฐและเอกชนที่เป็นพันธมิตรเพื่อนำเสนอสินเชื่อที่อยู่อาศัยในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ภายใต้เงื่อนไขที่ดีที่สุดและมีความเหมาะสมกับผู้บริโภคแต่ละบุคคล อีกทั้งการเสริมความแข็งแกร่งด้านเงินทุน โดยมีการเสนอขายหุ้นกู้เป็นครั้งแรก จำนวน 2 ชุด อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.00-4.70% ต่อปี กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ โดยเสนอขายระหว่างวันที่ 17-18 และ 21 พ.ย. 65 เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการขยายทำเลการพัฒนาโครงการใหม่ เพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินธุรกิจเพื่อประโยชน์สูงสุดต่อบริษัทและผู้มีส่วนได้เสียทุกมิติ