ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 เม.ย.) หลังจากผู้บริหารของเมอร์ริล ลินช์ กล่าวว่า บริษัทมีสภาพคล่องสูงพอและไม่จำเป็นต้องระดมทุนเพิ่ม ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนมั่นใจว่าระบบการเงินทั่วโลกกำลังมีเสถียรภาพ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจำนวนมากมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรในคืนวันศุกร์ จึงทำให้ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกขึ้นไม่มากนัก
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดขยับขึ้น 20.20 จุด หรือ 0.16% แตะระดับ 12,626.03 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 1.78 จุด หรือ 0.13% แตะระดับ 1,369.31 จุด และ ดัชนี Nasdaq ปิดดีดขึ้น 1.90 จุด หรือ 0.08% แตะระดับ 2,363.30 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 3.77 พันล้านหุ้น ลดลงจากวันพุธที่ 4.19 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 3 ต่อ 2
นายโทมัส เจ ลี นักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกนกล่าวว่า "นักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่าระบบการเงินทั่วโลกเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น หลังจากนายจอห์น เทน ซีอีโอของเมอร์ริล ลินช์ กล่าวให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์นิกเกอิของญี่ปุ่นว่า เมอร์ริล ลินช์ มีสภาพคล่องสูงพอและไม่จำเป็นต้องระดมทุนเพิ่ม"
นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีมุมมองในด้านบวกต่อนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ชี้แจงต่อวุฒิสภาสหรัฐเมื่อคืนนี้ว่า เฟดตัดสินใจอนุมัติเงินทุนมูลค่า 2.9 หมื่นล้านดอลลาร์ให้กับเจพีมอร์แกน เพื่อนำไปซื้อกิจการแบร์ สเติร์นส์ โดยมีเป้าหมายที่จะยับยั้งภาวะตื่นตระหนกในตลาด ซึ่งการยอมรับอย่างตรงไปตรงมาของเบอร์นันเก้ทำให้นักลงทุนมองว่า เฟดมีความโปร่งใสมากขึ้น
นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐในคืนวันศุกร์ หลังจาก ADP ซึ่งเป็นองค์กรที่ให้บริการด้านข้อมูลจ้างงานของสหรัฐเปิดเผยว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีอัตราการจ้างงานเพิ่มขึ้น 8,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งตัวเลขดังกล่าวพุ่งขึ้นสวนทางกับที่ตลาดคาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนจะปรับตัวลดลง 70,000 ตำแหน่ง
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์กล่าวว่า ผลสำรวจตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนของ ADP นั้นไม่สามารถใช้ชี้วัดตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรโดยรวมของสหรัฐได้อย่างแม่นยำมากนัก ซึ่งนักวิเคราะห์จากโพลล์ของสำนักข่าวธอมสัน ไอเอฟอาร์ มาร์เก็ตส์คาดว่า รัฐบาลสหรัฐจะรายงานตัวเลขจ้างงานที่ปรับตัวลดลง 50,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. หลังจากที่ร่วงลง 63,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ.
ทั้งนี้ หุ้นเจพีมอร์แกนดีดขึ้น 9 เซนต์ ปิดที่ 46.28 ดอลลาร์ หุ้นแบร์ สเติร์นส์ รูดลง 14 เซนต์ ปิดที่ 10.72 ดอลลาร์ หลังจากนายเจมส์ ดีมอน ซีอีโอของเจพีมอร์แกนยอมรับต่อวุฒิสภาสหรัฐว่า บริษัทได้กู้ยืมเงินจากเฟดเพื่อใช้กอบกู้กิจการแบร์ สเติร์นส์
หุ้นเชอริง-พลาวจ์ พุ่งขึ้น 11% หลังจากบริษัทวางแผนปรับลดพนักงานเพื่อชดเชยยอดขายยา Vytorin ที่ร่วงลงอย่างหนัก โดยยาดังกล่าวใช้ลดคลอเลสเตอรัลในเส้นเลือด
หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ ร่วงลง 2.9% หลังจากนักวิเคราะห์ของยูบีเอสประกาศลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--