MOSHI วางเป้ารักษามาร์เก็ตแชร์ธุรกิจค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ เดินหน้าขยายสาขาใน-ตปท.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 15, 2022 12:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

MOSHI วางเป้ารักษามาร์เก็ตแชร์ธุรกิจค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ เดินหน้าขยายสาขาใน-ตปท.

นายสง่า บุญสงเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น (MOSHI) เปิดเผยถึงกลยุทธ์การเติบโตว่า บริษัทเดินหน้าขยายสาขาต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัดที่มีศักยภาพ โดยปี 66 มีแผนเปิดสาขากว่า 20 สาขา และใน 3 ปีข้างหน้าหรือภายในปี 68 จะเปิดสาขาทั้งหมด 165 สาขา จากปัจจุบันมีอยู่ 100 สาขา

นอกจากนี้ร้านโมชิ โมชิ ยังมีโอกาสเปิดสาขาในห้างสรรพสินค้าและไฮเปอร์มาร์เก็ตได้อีกมาก ที่ปัจจุบันมีสัดส่วนสาขาในห้างและไฮเปอร์มาร์เก็ตเพียง 15.8%

"ภาพปีหน้า ธุรกิจค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์มีการแข่งขันสูง แต่ถ้าเข้าใจตลาด ออกโปรดักส์ที่ตลาดต้องการ คงรักษาระดับราคา ออสินค้าตามเทรนแฟชั่นเราวางแผนตลาดออกสินค้าตาม Seasonal เราเชื่อมั่นว่าเรายังสามารถ Market Share คงเป็นผู้นำอันดับหนึ่ง"นายสง่า กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทยังได้เพิ่มการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม โดยการพัฒนสินค้าใหม่ๆออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะออกมามากกว่า 8,000 SKUs รวมถึงออกสินค้าลักษณะ Collection สินค้า Seasonal อาทิ เทศกาลปีใหม่ เทศกาลวันเด็ก เป็นต้น และสินค้าลิขสิทธิ์การ์ตูนที่เป็นที่นิยม รวมถึงการร่วมกับศิลปินดังที่มีฐานแฟนคลับให้รู้จักโมชิ

บริษัทจะเพิ่มความสามารถในการเติบโตของกำไร โดยจะมุ่งเน้นการขยายร้านค้าปลีกเพราะมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าร้านค้าปลีกแบบมีส่วนลด รวมถึงปรับสัดส่วนสินค้า(Product Mix) ที่จะเน้นสินค้าที่มีกำไรสูง โดยออกสินค้าที่ลดขั้นตอนการผลิตเพื่อลดต้นทุน หรือออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้น่าสนใจเพื่อเพิ่มมูลค่าเพิ่มของสินค้า

นายสง่า กล่าวว่า บริษัทจะลงทุนพัฒนาระบบไอทีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะพัฒนาระบบห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain)มีการนำข้อมูลมาวิเคราะห์ดีมานด์ซัพพลาย และอยู่ระหว่างพัฒนาระบบสมาชิกลูกค้า (Membership) เพื่อเพิ่มการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเพื่อนำเสนอสินค้าให้ตรงกับความต้องการลูกค้า

และบริษัทพัฒนาช่องทางจำหน่ายสินค้าทางออนไลน์ และมีแผนจะขยายสาขาในรูปแบบ Standalone ในพื้นที่ใกล้แหล่งชุมชน โรงเรียนและแหล่งทำงาน โดยบริษัทจะทดลองเปิดร้านแบบ Standalone ที่จะเป็นต้นแบบให้เปิดทำธุรกิจเฟรนไชส์ต่อไป

นายสง่า ยังกล่าวว่า บริษัทมีแผนจะเปิดสาขาในต่างประเทศ ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาอยู่ คาดหวังว่าในอีก 3 ปีข้างหน้าน่าจะเห็นภาพชัดเจน เพราะบริษัทพยายามเจาะตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น

บมจ.โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น (MOSHI) ดำเนินธุรกิจค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ในประเทศไทยซึ่งขายสินค้าหลากหลายประเภทครอบคลุมตั้งแต่ เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องเขียน กระเป๋า และของใช้แฟชั่น เป็นต้น ทำให้ธุรกิจประเภทดังกล่าวมีอัตราการเติบโตในระดับสูงกว่าธุรกิจค้าปลีกทั่วไป โดย MOSHI มีจุดเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2559 เป็นร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ที่นำเสนอสินค้าที่คุ้มค่า มีดีไซน์สวยงาม ทันสมัย และหลากหลายอยู่เสมอ รวมทั้งมีการตกแต่งร้านค้าให้น่าสนใจและมีสินค้าใหม่ๆ เพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาเลือกซื้อสินค้าอยู่เสมอ แม้ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ธุรกิจค้าปลีกได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ทำให้มีการปิดร้านค้าชั่วคราวตามห้างสรรพสินค้า และกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ลดลง MOSHI จึงได้มุ่งเน้นช่องทางขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้นและได้มีการปรับเปลี่ยนการขายสินค้าให้เข้ากับสถานการณ์ เช่น หน้ากาก ชุดตรวจ ATK เป็นต้น ทำให้บริษัทฯ ยังสามารถทำกำไรสุทธิได้ต่อเนื่อง และในช่วงไตรมาสที่ 4/64 ธุรกิจร้านค้าปลีกกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งจากการคลายมาตรการล็อกดาวน์ การทยอยเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงการที่ภาครัฐและผู้ประกอบการต่างออกมาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย

ภาพรวมอุตสาหกรรมค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ในประเทศไทยในอีก 5 ปีข้างหน้า (64-69) คาดการณ์ว่าจะมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในระดับ 20.4% ต่อปี ตามทิศทางเศรษฐกิจไทยคาดว่าจะฟื้นตัวต่อเนื่องจากปัจจัยจากการเปิดให้บริการของศูนย์การค้า โรงเรียนและสถานที่ทำงานอย่างเต็มรูปแบบ และภาคการท่องเที่ยวซึ่งปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ทยอยกลับมาเที่ยวที่ประเทศไทย ส่งผลให้เกิดความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ (Economic Sentiment) กำลังซื้อของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น เป็นปัจจัยบวกแก่ตลาดค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ได้รับผลประโยชน์จากปัจจัยและกลไกสำคัญที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าวไปด้วย รวมถึงการขยายตัวของความเป็นเมือง (Urbanization) ที่ส่งผลให้กำลังซื้อของชนชั้นกลางเพิ่มขึ้นอีกด้วย (อ้างอิงข้อมูลจาก Frost & Sullivan)

MOSHI ก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ในประเทศไทย โดยมีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2562 และในปี 2564 มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับหนึ่งสูงถึง 37.6% และยังมีสาขาครอบคลุมจำนวนจังหวัดมากที่สุดในประเทศไทย โดยมีร้านค้าใน 41 จังหวัด โดยปัจจุบันมีสาขาของ MOSHI ทั้งสิ้น 100 สาขา ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565

นอกจากนี้ ยังมีช่องทางการขายสินค้าผ่านออนไลน์แพลตฟอร์ม (Online Platform) ที่เป็นที่นิยม ได้แก่ Shopee และ Lazada รวมถึงร้านป๊อปอัพ สโตร์ (Pop-up Store) ซึ่งเป็นร้านค้าที่จัดขึ้นชั่วคราวบริเวณพื้นที่ส่วนกลางของห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ

บริษัทฯ มีกลยุทธ์การดำเนินงานเพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำในธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ (Lifestyle) รายใหญ่ของประเทศไทย ได้แก่ 1.) ขยายเครือข่ายสาขาอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ที่มีศักยภาพ 2.) เพิ่มการเติบโตของยอดขายของสาขาเดิม (Same Store Sales Growth: SSSG) 3.) เพิ่มความสามารถในการเติบโตของกำไรโดยการพัฒนาสินค้า และการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ 4.) ลงทุนพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ต่อยอดความสัมพันธ์กับลูกค้า และรองรับการเติบโตในอนาคต 5.) พัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้า และธุรกิจใหม่ๆ เพื่อขยายฐานลูกค้า และต่อยอดธุรกิจเพื่อการเติบโตในอนาคต และ 6.) พัฒนาทรัพยากรบุคคลในแต่ละสาขาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานขายหน้าร้านและสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า

นางสาวศุภรดา โรจน์วัฒนะ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน MOSHI กล่าวว่า บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญด้านการพัฒนาและออกแบบสินค้าเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายและเทรนด์ในการใช้สินค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันของบริษัทฯ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาและออกแบบสินค้าใหม่ที่หลากหลายทั้งประเภทสินค้า รูปแบบและลวดลายให้น่าสนใจและมีเอกลักษณ์ รวมถึงจุดแข็งด้านคุณภาพในราคาเข้าถึงได้ทำให้ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าในชีวิตประจำวัน สร้างความประทับใจและเพิ่มประสบการณ์การเลือกซื้อสินค้ารับกับโอกาสการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ที่สนับสนุนให้มีความต้องการในการซื้อสินค้าไลฟ์สไตล์กลับมาเพิ่มขึ้น

แม้ว่ารายได้ของบริษัทฯ ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะปรับตัวลดลง แต่บริษัทฯ ได้มีการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง โดยรวมถึงการปรับ Product Mix ให้เข้ากับสถานการณ์ จึงทำให้ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ ยังคงสามารถรักษาระดับกำไรได้อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ เชื่อว่าจากการที่สถานการณ์ในปัจจุบันเริ่มคลี่คลายไปในทิศทางบวก ทั้งการกลับมาเข้าเรียนในโรงเรียน การกลับเข้ามาทำงานที่สถานที่ทำงาน และการเฉลิมฉลองในงานเทศกาลต่างๆ จะเป็นปัจจัยสนับสนุนเชิงบวกต่อการเติบโตของธุรกิจค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ