นายสาวิตร ศรีศรันยพงศ์ ผู้บริหารกลุ่มธุรกิจวาณิชธนกิจ ธนาคารกสิกรไทย ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าไฮโดรเจน หรือ Hydrogen Freehold and Leasehold Real Estate Investment Trust (HYDROGEN) เปิดเผยว่า เตรียมเปิดให้นักลงทุนจองซื้อหน่วยทรัสต์ของกองรีท HYDROGEN ในวันที่ 21-25 พ.ย. 65 ผ่านธนาคารกสิกรไทย และผู้ร่วมจัดจำหน่าย ได้แก่ บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) และ บล.พาย คาดว่าจะนำหน่วยทรัสต์เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในช่วงกลางเดือน ธ.ค. 65
กองรีท HYDROGEN ถือเป็นทรัพย์สินกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพของเครือสหพัฒน์ สะท้อนจากอัตราการเช่าพื้นที่อยู่ในระดับสูงและทำเลที่ตั้งของโครงการที่อยู่ในพื้นที่ยุทธศาสตร์ภาคการขนส่งและการผลิต จึงมีความต้องการเช่าพื้นที่อย่างต่อเนื่องจากผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมต่างๆ โดยกองรีท HYDROGEN ประมาณการอัตราการจ่ายประโยชน์ตอบแทนในปีแรก อยู่ที่ราว 7.0% อ้างอิงช่วงเวลาประมาณการระหว่างวันที่ 1 ม.ค. - 31 ธ.ค. 66
ด้านนายวิชัย กุลสมภพ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง (SPI) เปิดเผยว่า กองรีท HYDROGEN ลงทุนในกรรมสิทธิ์โครงการไทเกอร์ สุวรรณภูมิ ดีซี ลาดกระบัง และสิทธิการเช่าระยะเวลา 30 ปี ในโรงงานภายในโครงการสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ศรีราชา กบินทร์บุรี และแม่สอด รวมทั้งหมด 4 โครงการ ที่เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ของการขนส่งสินค้าและภาคการผลิต สามารถเชื่อมต่อการขนส่งสินค้าทั้งทางบก ทางทะเลและ ทางอากาศ รวมถึงจะได้รับประโยชน์จากโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) การค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านตลอดจนภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียนที่ทยอยฟื้นตัว ส่งผลดีต่อความต้องการเช่าพื้นที่คลังสินค้าและโรงงานเพื่อขยายกิจการและเพิ่มกำลังการผลิต
ขณะที่นายปิยะพงศ์ พินธุประภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฮโดรเจน รีท แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการ กองรีท HYDROGEN กล่าวว่า จะเข้าลงทุนครั้งแรก ได้แก่ โครงการไทเกอร์ สุวรรณภูมิ ดีซี ลาดกระบัง และโครงการสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ศรีราชา กบินทร์บุรี และแม่สอด มีจุดเด่นหลากหลาย ได้แก่ 1) โรงงานและคลังสินค้าที่มีมาตรฐานการออกแบบและก่อสร้างสูง รองรับการปรับเปลี่ยนรูปแบบใช้งานให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้เช่า 2) มีผู้เช่ากระจายตัวจากหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ โลจิสติกส์ อีคอมเมิร์ซ สินค้าอุปโภคบริโภค ฯลฯ และส่วนใหญ่เป็นคู่ค้าหรือบริษัทในเครือสหพัฒน์ที่เช่าพื้นที่มาเป็นระยะเวลานาน 3) มีระบบสาธารณูปโภคภายในโครงการ 4) SPI เป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ของกอง
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 2/65 ของทรัพย์สินทั้ง 4 โครงการ มีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ย 99.20% และมีการต่อสัญญาจากผู้เช่าอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าในช่วงของภาพรวมเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 แต่อัตราการเช่าพื้นที่ทุกโครงการยังคงอยู่ในระดับสูง โดยมีการกระจายความเสี่ยงของผู้เช่าจากหลายสัญชาติ แบ่งเป็น ไทย 42.36% ญี่ปุ่น 27.51% จีน 16.12% อาเจนติน่า 13.79% และ เกาหลี 0.22%
นอกจากนี้ กองรีทยังมีโอกาสเติบโตจากการขยายการลงทุนในทรัพย์สินโครงการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ (ให้เช่า) หรืออสังหาริมทรัพย์ให้เช่าเพื่อการอยู่อาศัยในอนาคต อาทิ ศูนย์กระจายสินค้า คลังสินค้า อาคารโรงงาน คลังห้องเย็น ดาต้าเซ็นเตอร์ พื้นที่เก็บของให้เช่า ฯลฯ โดยมุ่งเน้นคัดเลือกทรัพย์สินที่มีศักยภาพเพื่อสร้างการเติบโตแก่กองรีทฯ