ตลาดหลักทรัพย์ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ 1,612.48 จุด ลดลง 7.50 จุด (-0.46%) มูลค่าการซื้อขายราว 32,122.06 ล้านบาท
การซื้อขายในช่วงเช้านี้ ดัชนีเคลื่อนไหวแดนลบตลอดช่วงเช้า โดยทำระดับสูงสุด 1,619.05 จุด และต่ำสุด 1,611.28 จุด
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์-รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ซึมตัวลงต่อเนื่อง โดยนักลงทุนกังวลว่ารัฐบาลจีนอาจกลับมาใช้มาตรการปิดเมือง (Lockdown) หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 พุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง
ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐอยู่ในทิศทางที่ซึมตัวเช่นเดียวกัน หลังจากพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร และพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา จากเดิมที่คาดว่าพรรครีพับลิกันจะชนะทั้ง 2 สภา ส่งผลให้มีแรงขายทำกำไรออกมา ในขณะเดียวกันค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ส่งผลให้มีการขายสินทรัพย์เสี่ยงสูงเพื่อย้ายเงินไปพักในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ นอกจากนี้ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนสหรัฐยังออกมาไม่ดีนัก
ประกอบกับ เงินบาทพลิกมาอ่อนค่าลงหลังจากแข็งค่าขึ้นไปเร็ว ส่งผลให้มีแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติออกมาเป็นแรงกดดันดัชนีตลาดหุ้นไทย โดยยังคงต้องติดตาม FTSE Rebalance ว่าจะมีการปรับน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทยอย่างไร
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายคาดว่าจะไซด์เวย์ในทิศทางที่ปรับตัวลงต่อ โดยให้แนวรับ 1,605 จุด และ แนวต้าน 1,620 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,507.76 ล้านบาท ปิดที่ 74.25 บาท ลดลง 0.25 บาท
BH มูลค่าการซื้อขาย 1,433.05 ล้านบาท ปิดที่ 216.00 บาท ลดลง 13.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,303.20 ล้านบาท ปิดที่ 61.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,267.06 ล้านบาท ปิดที่ 29.25 บาท ลดลง 1.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,125.45 ล้านบาท ปิดที่ 33.00 บาท ลดลง 0.50 บาท