นางสาวนมิดา อธิศพงษ์ ผู้อำนวยการกลุ่ม ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.ไมเนอร์อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) เปิดเผยว่า ทิศทางผลประกอบการในปี 66 จะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะดีกว่าปี 62 ช่วงก่อนการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของการเดินทางทั้งเพื่อการท่องเที่ยว และเพื่อการทำธุรกิจ
ขณะที่ปัจจุบันยอดจองห้องพัก (Booking) ยังคงมีทิศทางที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มโรงแรมในสหภาพยุโรปคาดว่าจะได้รับปัจจัยหนุนจากการท่องเที่ยว รวมไปถึงกลุ่มนักธุรกิจที่จะกลับมาเดินทางมากขึ้นหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลายได้เริ่มมีกิจกรรมทางด้านเศรษฐกิจกลับมาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้รายได้เฉลี่ยต่อห้องปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น
ด้านปัญหาราคาพลังงานในยุโรปนั้น บริษัทไม่ได้มีความกังวล เนื่องจากค่าใช้จ่ายด้านพลังงานคิดเป็นสัดส่วนเพียง 4% ของรายได้ ในขณะเดียวกันบริษัทยังได้ล็อกราคาพลังงานในราคาต่ำรองรับไปถึงปี 66 แล้ว
สำหรับโรงแรมในประเทศไทย อัตราการเข้าพักและรายได้เฉลี่ยต่อห้องปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และคาดว่าในปี 66 จะมีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้ามามากขึ้น ซึ่งบริษัทได้ใช้กลยุทธ์การขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้นด้วย
ส่วนธุรกิจโรงแรมในออสเตรเลียและมัลดีฟส์ มีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะการเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวจากชาวต่างชาติ โดยคาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุนให้อัตราการเข้าพักและรายได้เฉลี่ยต่อห้องสูงกว่าช่วงปี 62 ได้
"แม้ว่าภาพรวมทั่วโลกยังมีความผันผวนจากสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น แต่อย่างไรก็ตามบริษัทจับลูกค้ากลุ่มระดับไฮเอนด์ที่ได้รับผลกระทบน้อยกว่ากลุ่มอื่นๆ ส่งผลให้บริษัทยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และ ในปี 66 คาดว่าจะมีปัจจัยหนุนจากการเดินทางที่มากขึ้นทั้งการท่องเที่ยว และ เพื่อการทำธุรกิจ"
นอกจากนี้ ธุรกิจอาหารของประเทศไทยสามารถกลับมาเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และบริษัทยังได้มีการปรับรูปแบบร้านอาหารต่างๆให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ ซึ่งเป็นการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ๆ มากขึ้น ขณะที่ร้านอาหารในประเทศจีนแม้ว่ามีความผันผวนจากผลกระทบสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่บริษัทยังคงแผนงานที่จะสามารถสร้างผลกำไรสุทธิได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยการเน้นบริหารจัดการต้นทุนที่มีศักยภาพ รวมไปถึงการปรับกลยุทธ์การตลาดให้เหมาะสม
นางสาวนมิดา ยังเปิดเผยว่า บริษัทได้เตรียมงบลงทุนไว้ราว 10,000 ล้านบาทในปี 66 เพื่อที่จะใช้ในการขยายและปรับปรุงร้านอาหารในเครือ รวมไปถึงการขยายโรงแรมอย่างต่อเนื่องทั้งในรูปแบบของการลงทุนเอง และ รูปแบบการเช่าบริหาร โดยในช่วงปลายปี 65 นี้เตรียมเปิดโรงแรมเพิ่มอีก 2 แห่งในฝรั่งเศสและอิตาลี ขณะที่ปี 66 บริษัทเตรียมเปิดโรงแรมเพิ่มอีก 6 แห่ง