พลัสฯเร่งโครงการอื่นชดเชยคอนโดวัน เพิ่มเป้ารายได้ปี 51 เป็น 7.2 พันลบ.

          บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บมจ.แสนสิริ(SIRI)ถือ 100% ปรับเป้ารายได้ปี 51 เพิ่มเป็น 7,200 ล้านบาท จากเดิม 7,000 ล้านบาท โดยเร่งสร้างโครงการอื่นเพื่อรับรู้รายได้เร็วขึ้น เพื่อชดเชยกับโครงการคอนโดวันที่ติดปัญหาข้อบังคับของทางการจะต้องรื้อห้องชุดชั้นบนสุดของ 11 โครงการ แต่จะเร่งปรับปรุงพื้นที่ให้เสร็จภายในมิ.ย.เพื่อทยอยโอนกรรมสิทธิ์ให้ลูกค้าตั้งแต่ ก.ค.นี้เป็นต้นไป 
          นายเมธา จันทร์แจ่มจรัส ประธานอำนวยการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทปรับเพิ่มเป้ารายได้ปีนี้ แม้จะเกิดปัญหาในโครงการคอนโดวันที่ทำให้ส่งมอบล่าช้า โดยจะเร่งโครงการอื่นเพื่อโอนให้กับลูกค้าได้เร็วขึ้นจากแผนงานเดิม 
          "บริษัทได้วางแนวทางในการดำเนินการ เพื่อสร้างรายรับของพลัสในปี 51 เพื่อชดเชยการเสียโอกาสทางธุรกิจที่อาจมีบ้างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งพลัสฯ ได้ปรับเป้ารายได้ปีนี้ให้สูงขึ้นกว่าเดิมจาก 7,000 ล้านบาท เป็น 7,200 ล้านบาท " นายเมธา กล่าว 
          โครงการที่อยู่อาศัยอื่นๆ ที่จะเร่งขึ้นมามีทั้งโครงการทาวน์เฮ้าส์ และคอนโดมิเนียมอื่นๆ ได้แก่ โครงการมายคอนโด เพื่อส่งมอบกับลูกค้าให้เร็วขึ้น โดยการเร่งการก่อสร้างจะใช้วิธีการเพิ่มกำลังการผลิตให้มากขึ้น แต่ยังคงคุณภาพและมาตรฐานของโครงการที่จะส่งมอบให้กับลูกค้าเช่นเดิม เพื่อให้สามารถมีสินค้าที่ส่งมอบให้กับลูกค้าในปีนี้ได้มากขึ้น
          นายเมธา กล่าวว่า สำหรับโครงการคอนโดวันที่หน่วยงานราชการทักท้วงให้ปรับพื้นที่อาคารบางส่วนของอาคารคอนโดมิเนียม ส่งผลให้เกิดการโอนล่าช้ากว่ากำหนดนั้น ทางพลัสฯ จะปรับปรุงแก้ไขให้เกิดผลกระทบกับลูกค้าให้น้อยที่สุด คาดว่าจะใช้เวลาปรับปรุงพื้นที่และดำเนินการด้านเอกสารทางราชการให้แล้วเสร็จภายในมิ.ย. และเริ่มทยอยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดได้ตั้งแต่ ก.ค.เป็นต้นไป 
          ทางบริษัทฯ ได้ศึกษาแนวทางร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโครงสร้างและวิศวกรรมงานระบบแล้ว ซึ่งก็ได้รับคำยืนยันว่าการปรับปรุงพื้นที่อาคารที่ได้แตรียมการไว้ดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างอาคารและงานระบบแต่อย่างใด  เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้าเกี่ยวกับการดำเนินการปรับปรุงอาคาร 
          ก่อนหน้านี้ นายเมธา ยอมรับโครงการคอนโด วัน ทุกโครงการที่มีจำนวนชั้น 9 ชั้นก่อสร้างสูงเกิน 23 ม. ซึ่งเข้าข่ายเป็นอาคารสูงตามกฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ที่ผ่านมาบริษัทพยายามแก้ไข แต่ปัญหาก็ยืดเยื้อ บริษัทจึงตัดสินใจรื้อผนังและฝ้าชั้น 9 ออก ปล่อยเป็นพื้นที่เปล่า ไม่มีการใช้งาน หรืออยู่อาศัย จึงส่งผลให้มีการส่งมอบล่าช้า 
          ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้น 11 โครงการ 14 อาคาร รวม 1,605 ยูนิต คิดเป็นพื้นที่ขาย 71,400 ตร.ม. มูลค่ารวมทั้งสิ้น 3,950 ล้านบาท มียอดขายแล้วกว่า 90% ประกอบด้วย 1.คอนโดวัน สุขุมวิท 67, 2.คอนโดวัน ลาดพร้าว 18, 3.คอนโด วัน ลาดพร้าว 15, 4.คอนโด วัน สาทร, 5.คอนโด วัน ทองหล่อ-สเตชั่น, 6.คอนโด วัน สุขุมวิท 52, 7.คอนโด วัน รัชดา-ลาดพร้าว, 8.คอนโด วัน สยาม, 9. คอนโด วัน โซโห, 10.คอนโด วัน ลาดพร้าว-สเตชั่น และ 11.คอนโดวัน สาทร-นราธิวาส