นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ถึงไซด์เวย์อัพ โดยได้รับแรงหนุนจากปัจจัยภายในประเทศ หลังจากวานนี้สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 3/65 ขยายตัวสูงถึง 4.5% สะท้อนภาพเศรษฐกิจเร่งตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง
ขณะที่ปัจจัยบวกจากต่างประเทศมาจากการที่นางแมรี ดาลี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาซานฟรานซิสโก แนะนำให้เฟดใช้ความระมัดระวังในการดำเนินนโยบายการเงินเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และนางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ได้ออกมาแสดงความในทางเดียวกัน โดยสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่ชะลอลงในการประชุมเดือนธ.ค.นี้
การลงทุนโดยรวมวันนี้ แนะเน้นกลุ่ม Domestic Play โดยให้แนวรับ 1,611 จุด และแนวต้าน 1,625-1,630 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (21 พ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,700.28 จุด ลดลง 45.41 จุด หรือ -0.13%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,949.94 จุด ลดลง 15.40 จุด หรือ -0.39% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,024.51 จุด ร่วงลง 121.55 จุด หรือ -1.09%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 28,059.51 จุด เพิ่มขึ้น 114.72 จุด หรือ +0.41%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 17,625.19 จุด ลดลง 30.72 จุด หรือ -0.17% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,084.23 จุด ลดลง 0.81 จุด หรือ -0.03%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (21 พ.ย.65) 1,618.86 จุด เพิ่มขึ้น 1.48 จุด, +0.09%
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,513.50 ลบ.เมื่อวันที่ 21 พ.ย.65
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค. (21 พ.ย.) ลดลง 35 เซนต์ หรือ 0.44% ปิดที่ 79.73 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (21 พ.ย.) อยู่ที่ 9.01 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 36.30 อ่อนค่าหลังดอลลาร์ทยอยกลับมาแข็งค่าจากความกังวลโควิดระบาดในจีน
- สศช.มองเศรษฐกิจโลกปี 2566 ยังคงมีความเสี่ยงจับตา "เงินเฟ้อ-สงคราม" ย้ำการลงทุนยังคงมีความเสี่ยง ส่วนเศรษฐกิจไทยปีหน้า ขยายตัว 3-4% จากปัจจัยลงทุน พร้อมท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวจากปีนี้ คาดมียอดนักท่องเที่ยวกว่า 20 ล้านคน หนุนรายได้ 1.2 ล้านล้าน
- ปปง. สั่งอายัดทรัพย์สิน ที่เกี่ยวพันหุ้น MORE รวม 34 รายการ มูลค่ากว่า 5.3 พันล้านบาท จากผู้เกี่ยวข้องรวม 25 ราย พบหลักฐานคำสั่งขายบางรายการใช้ IP Address เดียวกับเครื่องที่ "อภิมุข" ส่งคำสั่งซื้อหุ้น เผยหลักฐานชัดตั้งใจเบี้ยวจ่ายค่าหุ้น ด้าน ตลท. ปลด SP หุ้น MORE ราคาดิ่งฟลอร์ต่อเนื่องวันที่สาม
- ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายและกำกับสถาบันการเงิน 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงผลดำเนินงานระบบธนาคารพาณิชย์ ไตรมาส 3 ปี 65 ว่า ยังแข็งแกร่งทั้งด้านทุนและผลดำเนินการ โดยสินเชื่อเพิ่ม 5.3% จากระยะเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลงเทียบไตรมาสก่อนหน้า โดยมีผลการคืนหนี้ของเอสเอ็มอี หลังครบกำหนดกู้ยืมสินเชื่อฟื้นฟูช่วงก่อนหน้า และตัดขายสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ออกจากธนาคาร หากแยกเป็นรายสินเชื่อ พบว่าสินเชื่อธุรกิจรายใหญ่ เพิ่ม 6.1% สินเชื่อเอสเอ็มอี ลด 1.4% สินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้นทุกรายการต่อเนื่อง แสดงถึงการก่อหนี้เพิ่มของรายย่อย โดยสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพิ่ม 2.6% สินเชื่อรถยนต์เพิ่ม 1.6% สินเชื่อบัตรเครดิตเพิ่ม 10.9% สินเชื่อส่วนบุคคลเพิ่ม 7.7%
- ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-20 พ.ย. มีจำนวน 8,822,950 คน โดยขณะนี้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยเฉลี่ยวันละ 60,000 คน จึงมีโอกาสถึง 10 ล้านคนก่อนวันที่ 10 ธ.ค.นี้ โดย 5 ลำดับแรก พบว่าอันดับ 1 คือมาเลเซีย 1,454,063 คน อินเดีย 778,382 คน ลาว 638,260 คน กัมพูชา 464,699 คน สิงคโปร์ 433,561 คน
- กองทุนน้ำมันฯ รับเงินกู้จากกรุงไทย แล้ว 5,000 ล้าน ล่าสุดฐานะติดลบสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 132,732 ล้าน แฉปั๊มฟันค่าการตลาดอื้อ ตระกูลโซฮอล์ลิตรละเกือบ 4 บาท
*หุ้นเด่นวันนี้
- บมจ. กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลตทริค เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai ภายใต้กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "KJL" ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 ด้วยราคา IPO 13.50 บาท KJL ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายตู้ไฟสวิทช์บอร์ด รางเดินสายไฟ อุปกรณ์ที่ใช้เดินสายไฟ และชิ้นส่วนงานโลหะแผ่นแปรรูปสั่งผลิตพิเศษ ด้วยเครื่องจักรและเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ภายใต้เครื่องหมายการค้า KJL
- CRC (กรุงศรี) "ซื้อ" เป้า IAA Consensus 46 บาท ดักเก็งกำไรก่อนภาครัฐนำมาตรการ ช้อปดีมีคืนเข้า ครม. ในสัปดาห์หน้า, กระแสฟุตบอลโลกช่วยหนุนยอดขายผ่าน Power buy, Super sport และ Family Mart
- CPALL (เมย์แบงก์) เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 79 บาท คาดแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/65 จะเติบโตต่อเนื่องทั้ง QoQ และ YoY จากการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น หนุนยอดขายปรับตัวขึ้น อีกทั้งยังได้แรงบวกเพิ่มเติมจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ ผสานกับ All Cafe มีการปรับราคาสินค้าขึ้น ส่งผลบวกยิ่งขึ้น
- BGRIM (ดาโอ) เป้าเชิงกลยุทธ์ 40.50 บาท หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่เริ่มปรับตัวลง (ล่าสุด Brent อยู่ที่ $87.45/บาเรล) และอาจทำให้พลังงานอื่น อาทิ ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหินปรับตัวลดลง ซึ่งจะเป็นบวกต่อมาร์จิ้นของกลุ่มโรงไฟฟ้า และได้ประโยชน์จากการปรับขึ้นค่า Ft ในงวดเดือน ม.ค.-เม.ย. (ค่าไฟจะอยู่ที่ 5.37-6.03 บาท/หน่วย) ส่วนราคาหุ้น BGRIM ค่อนข้าง Laggard -9.26%YTD โดยประเมินกำไรสุทธิปี 2565-2566 ที่ 362 ลบ. และ 1.25 พัน ลบ. -84%YoY, +245% ตามลำดับ