เข้าสู่ช่วงสิ้นปี นักลงทุนเริ่มมองถึงดัชนีปีหน้า (ปี 2566) รวมไปถึงตลาดหุ้นบ้านเราว่าจะมีทิศทางอย่างไร โดยหากดูปัจจัยโดยรวมปีนี้ตลาดหุ้นไทยยังค่อนข้างทรงตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน แต่หากเทียบกับตลาดต่างประเทศแล้ว ตลาดหุ้นไทยก็ยังคงโดดเด่น Outperform กว่าตลาดหุ้นทั่วโลกที่เจอแรงกดดันจากปัจจัยต่าง ๆ ทั้งภาวะเงินเฟ้อ หรือแม้แต่ปัญหาภาคแรงงาน
ภาพรวมตลาดหุ้นไทยไตรมาส 4/65 จะเริ่มเห็นการฟื้นตัวกลับ แม้ไตรมาส 1/66 อาจเห็นการย่อลงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยในต่างประเทศที่จะเห็นภาพชัดเจนขึ้น แต่แม้จะมีปัจจัยลบจากเศรษฐกิจทั่วโลก แต่ในประเทศมีปัจจัยบวกสำคัญรออยู่ คือการเข้าสู่บรรยากาศการเลือกตั้ง (Election Rally) ที่เคาะวันเบื้องต้น 7 พ.ค.66 แต่ก็มีโอกาสจะเกิดขึ้นเร็วกว่านั้น โดยปกติตลาดหุ้นช่วง Election Rally จะมีสีสันอย่างมาก หนุนให้ Outperform ได้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนั้น ปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจไทยเติบโตเร่งตัวขึ้นต่อเนื่องในเกณฑ์ที่ดีเมื่อเทียบกับเศรษฐกิจหลายประเทศที่เติบโตชะลอลง หรือบางประเทศอยู่ในภาวะถดถอยไปเลย ขณะที่การลงทุนของภาคเอกชนคาดว่าจะเดินหน้าโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการ โดยเฉพาะโครงการต่อแผน PDP ฉบับใหม่ การผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และโครงการในรูปแบบ PPP แม้ว่าการลงทุนภาครัฐอาจจะชะลอไปบ้าง รวมทั้งการท่องเที่ยวจะฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง
อีกทั้งบอนด์ยีลด์สหรัฐ ค่าเงืนดอลลาร์ที่แข็งค่าไปมาก และ ปัญหาเงินเฟ้อในหลายประเทศที่เคยพุ่งขึ้นไปสูงก็จะเริ่มคลี่คลายลง ส่งผลให้หุ้นที่เคยถูกกดดัน อย่างกลุ่มโรงไฟฟ้า กลุ่มค้าปลีก กลุ่มไฟแนนซ์ กลุ่ม REIT ก็จะค่อย ๆ กลับมาฟื้นตัวในปี 66
นักลงทุนสามารถจัดพอร์ตตามกลุ่มที่น่าสนใจอย่างกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากปรากฎการณ์ 3 Peak (Bond Yield, Dollar Index, Inflation) กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน เศรษฐกิจไทย การเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ
ตลาดหุ้นประเทศไทยแม้จะยังมีปัจจัยลบอยู่บ้าง แต่ก็มี Upside เล็กน้อย เป้าดัชนีปี 66 จะเป็นอย่างไร?? จะช้อนหุ้นอะไรดีในปีกระต่าย?? วันนี้ "Weath Me Please" จะพาไปพูดคุยกับ นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. หยวนต้า (ประเทศไทย) ที่จะมาไขรหัสกับ "เกาะ 5 เทรนด์เด่น จัดพอร์ตรับปีกระต่าย!!"
https://youtu.be/atRCQ238CgM