นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานตลาดทุน บล.ภัทร (PHATRA) ในฐานะผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นบมจ.เอสโซ่ (ประเทศไทย) คาดว่าจะกำหนดราคาเสนอขายหุ้นได้ในวันที่ 23 เม.ย.นี้ และจะสามารถเข้าเทรดได้ในวันที่ 6 พ.ค.
ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้าบริษัทจะเดินทางไปโรดโชว์ในต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ สหรัฐ และยุโรป เพราะได้มีการจัดสรรให้นักลงทุนต่างประเทศด้วย
อนึ่ง เอสโซ่ฯ จะเสนอขายหุ้น IPO รวม 1,099,583,300 หุ้น กำหนดช่วงราคา 9-13 บาท/หุ้น ระยะเวลาจองซื้อสำหรับผู้จองซื้อรายย่อยและบุคคลทั่วไป 21-22 เม.ย.51 ส่วนนักลงทุนสถาบันกำหนดให้จองซื้อได้ 23-25, 28 เม.ย.51 โดยจัดสรรเสนอขายต่อนักลงทุนสถาบันไม่เกิน 228,571,400 หุ้น, เสนอขายต่อบุคคลทั่วไป 159,320,300 หุ้น, เสนอขายต่อผู้จองซื้อรายย่อย 161,900, 000 หุ้น และเสนอขายต่อผู้ลงทุนในต่างประเทศจำนวนรวมไม่เกิน 549,791,600 หุ้น
ด้านนายมงคลนิมิตร เอื้อเชิดกุล กรรมการ บมจ.เอสโซ่ (ประเทศไทย) กล่าวว่า การที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกมีความผันผวนและเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อธุรกิจ จึงยังไม่สามารถประเมินรายได้และกำไรในปีนี้ เพราะจะต้องพิจารณาค่าการกลั่นประกอบด้วย แต่เชื่อว่าน่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 1.9 แสนล้านบาท ซึ่งรายได้ในปีก่อนมาจากธุรกิจการกลั่น 80-90% ที่เหลือมาจากธุรกิจปิโตรเคมี
ส่วนการที่ภาครัฐตรึงราคาน้ำมันมองว่าไม่ได้ส่งผลกระทบต่อบริษัท และแผนการลงทุนแต่อย่างใด
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนจะลงทุนในการปรับปรุงคุณภาพน้ำมัน Euro4 มูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท เพราะเม็ดเงินดังกล่าวจะมาจากกระแสเงินสด และเชื่อว่าจะสามารถสร้างได้เสร็จปี 54 และใช้ได้ในปี 55 ตามแผน
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุน บริษัทจะนำไปชำระคืนหนี้บางส่วนที่ปัจจุบันมีหนี้สินรวม 4.6 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นหนี้ระยะสั้นประมาณ 1.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทำให้อัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ลดลงเหลือ 1 เท่า จาก 1.4 เท่าในปัจจุบัน
"การเติบโตของเรายอมรับว่าประเมินได้ยาก เพราะต้องขึ้นอยู่กับค่าการกลั่นและราคาน้ำมัน แต่การที่อัตราการใช้น้ำมันในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้น 2% น่าจะส่งผลดีต่อเรา"นายมงคลนิมิตร กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--