หุ้น TH ดีดกลับมาพุ่งแรงถึง 19.82% เช้านี้ จากช่วงก่อนหน้านี้ร่วงลงมาอย่างต่อเนื่องหลังจากมีชื่อนายสมนึก กยาวัฒนกิจ ประธานกรรมการ รวมถึงบริษัทในเครือ เข้าเกี่ยวพันกับคดีฉ้อโกงด้วยการซื้อขายหุ้น บมจ.มอร์ รีเทิร์น (MORE) โดยเมื่อเวลา 10.26 น.หุ้น TH เพิ่มขึ้น 0.44 บาท มาที่ 2.66 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 344.19 ล้านบาท
ขณะที่หุ้น MORE ยังคงดิ่งฟลอร์อย่างต่อเนื่อง 29.41% มาที่ 0.48 บาท ลดลง 0.20 บาท มูลค่าซื้อขาย 9.2 ล้านบาท รวมถึงหุ้นที่ปรากฎชื่อในผลการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้ง HEMP ก็ยังร่วงลงต่ออีก 15.93% มาที่ 4.54 บาท ลดลง 0.86 บาท และ GSC ร่วงไปถึง 24.09% มาที่ 1.67 บาท ลดลง 0.53 บาท
นอกจากนั้นหุ้น COMAN ร่วงตามมา 8.62% มาที่ 3.18 บาท ลดลง 0.30 บาท จากความกังวลผลกระทบจากคดีดังกล่าว เนื่องจากมีกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่กลุ่มเดียวกับ MORE
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ราคาหุ้น บมจ.ตงฮั้ว โฮลดิ้ง (TH) พุ่งขึ้นสวนทางกับหุ้นที่เกี่ยวข้องกับคดีการซื้อขายหุ้น MORE เป็นเพราะนักลงทุนบางส่วนอาจมองว่าความเกี่ยวพันของ TH ในกรณีหุ้น MORE ทำผ่านบริษัทย่อย คือ ตงฮั้ว มีเดีย แล็บ และ ตงฮั้ว แคปปิตอล และนายสมนึก กยาวัฒนกิจ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ไม่ได้กระทบกับบริษัทโดยตรง และไม่ได้กระทบธุรกิจหลัก คือ การบริหารหนี้ ซึ่งมีกำไรปกติในไตรมาส 2/65 ราว 68 ล้านบาท และไตรมาส 3-65 ที่ 81 ล้านบาท ซึ่งยังสามารถเดินหน้าได้ต่อไปได้ ขณะที่ราคาหุ้น TH ปรับลงมามากจนถึงจุดที่น่าสนใจ
นอกจากนั้น ยังมองว่าหากเกิดความเสียหายจากการเข้าไปเกี่ยวข้องในคดี MORE ก็คาดว่าจะมีผลกระทบชั่วคราว โดยอาจมีการตั้งสำรองด้อยค่าสินทรัพย์ผ่านบริษัทลูก ซึ่งก็จะเกิดขึ้นเพียงในไตรมาสเดียว
ส่วนหุ้น บมจ.เฮลท์ เอ็มไพร์ คอร์ปอเรชั่น (HEMP) และ บมจ.โกลบอล เซอร์วิส เซ็นเตอร์ (GSC) รับผลกระทบโดยตรง เพราะเข้าไปลงทุนโดยตรงในหุ้น MORE
อย่างไรก็ดี แนะหลีกเลี่ยงการลงทุนหุ้น TH เพราะราคายังมีความผันผวนสูง อาจต้องรอความชัดเจนผลกระทบจากกรณีหุ้นMORE และการตั้งสำรองด้อยค่าว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด