วิกฤต FTX ยังไม่ทันจาง ล่าสุดทาง Reuters ได้รายงานข่าวว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ผู้บริหารของ FTX รวมถึงพ่อและแม่ของ Sam Bankman-Fried ได้ซื้อคอนโดมีเนียมหรูอย่างน้อย 19 แห่ง บนหมู่เกาะบาฮามาส รวมมูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท โดยระบุว่าเป็น "ที่อยู่อาศัยสำหรับผู้บริหารหลัก"
หากพูดถึงการล่มสลายของ FTX ที่ส่งผลให้ BlockFi และ Genesis ประกาศระงับการถอนไปแล้ว ซึ่งทาง FTX ก็ได้ยื่นขอใช้สิทธิล้มละลายภายใต้ Chapter 11 โดยเคสนี้มีเจ้าหนี้ยื่นฟ้องกว่า 100,000 ราย และก็กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย ซึ่งตอนนี้เรื่องก็กำลังอยู่ในชั้นศาลแล้ว
ล่าสุด John J. Ray III (ที่ 3) ซึ่งนั่งตำแหน่ง CEO ของ FTX ก็ได้แถลงว่าทาง FTX กำลังอยู่ระหว่างการประเมินทรัพย์สินในเครือ ทั้งการสำรวจการขาย การเพิ่มทุน หรือว่าธุรกรรมอื่น ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่เขาจะให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าเขายังคงดำเนินการต่อไป ฟังแล้วก็คล้าย ๆ กับ Zipmex เหมือนกัน
*Cathie Wood โชว์ความมั่นใจลุยซื้อบิทคอยน์เพิ่มหลังราคาทำจุดต่ำสุดในรอบ 2 ปี
หากเราดูราคาบิทคอยน์ช่วงนี้ จะพบว่าราคาบิทคอยน์ได้ทำจุดต่ำสุดในรอบ 2 ปีแล้ว ซึ่งทาง Ark Investment Management ภายใต้การนำของแม่ทัพสาว Cathie Wood สั่งเดินหน้าซื้อหุ้น Grayscale Bitcoin Trust เพิ่ม มูลค่ากว่า 1.5 ล้านดอลลาร์ ทำให่มูลค่าโดยรวมที่ทาง Ark investment ถือครองตอนนี้จะอยู่ที่ 6.4 ล้านหุ้น มูลค่าประมาณ 53 ล้านดอลลาร์
สาเหตุหนึ่งที่ราคาบิทคอยน์ร่วงหนักขนาดนี้ก็มาจาก Domino Effect จากกรณีของ FTX ด้วย หลายคนเริ่มไม่มั่นใจใน Cryptocurrency แต่ไม่ใช่กับ Cathie Wood งานนี้ใครจะรู้ว่า Cathie Wood อาจจะใช้จังหวะซื้อของถูกก็ได้
*Coinmarketcap เปิดตัว feature ใหม่ proof of reserve ป้องกันปัญหาจาก FTX
หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ FTX และส่งผลกระทบเป็นโดมิโนในอุตสาหกรรมคริปโทฯะ ทำให้ผู้ประกอบธุรกิจหลายเจ้าต้องล้มลง เพราะมีการนำสินทรัพย์ของลูกค้าไปหาดอกผลต่อ เอาไปฝากกินดอกไว้ที่โน่นบ้างที่นี่บ้าง ไม่ได้เก็บคริปโทฯ ไว้กับตัว
ล่าสุด Coinmarketcap ได้เปิดตัว Feature ใหม่ "Proof-of-Reserve" ให้นักลงทุนสายคริปโทฯ ได้เข้าไปตรวจสอบหลักฐานการสำรองของ Exchange ต่าง ๆ พูดง่าย ๆ ก็คือ เราสามารถเข้าไปดูได้ว่าแต่ละ Exchange มีเงินสำรองเท่าไหร่ ทั้งรายละเอียดทั้งหมดของแต่ละสินทรัพย์ รวมถึงกระเป๋าในเครือ ยอดคงเหลือ และมูลค่าในปัจจุบันด้วย ตรงนี้ก็จะทำให้เราเห็นสภาพคล่องจริง ๆ ของแต่ละ Exchange ทำให้เราประเมินความมั่นคงแล้วก็สถานะของแต่ละ Exchange ได้แบบ Real Time
โดยตัว Feature นี้จะอัพเดตทุก 5 นาที และทาง Coinmarketcap เองก็ได้ Tweet คำแนะนำการใช้งานไว้ใน Twitter Official Account แล้ว
และแน่นอน Exchange ที่เริ่มต้นเจ้าแรกก็คือ Binance ที่มีการเปิดเผยข้อมูล ซึ่งก็มีเงินสำรองกว่า 65 ล้านดอลลาร์ ตามมาด้วย Exchange อื่น ๆ อย่าง KuCoin, Bitfinex, OKX, Bybit, Crypto.com แล้วก็ Houbi ซึ่ง Exchange ทุกเจ้าที่กล่าวมาก็คือสามารถเข้าไปดู Reserve ได้ และคาดว่าเจ้าอื่น ๆ ที่ไม่ได้กล่าวถึงก็น่าจะทยอยตามมา
งานนี้เรียกว่าเน้นความโปร่งใสกันไปเลย เพราะขนาดธนาคารบ้านเราเอง ยังไม่สามารถดู Reserve แบบ Real Time อย่างนี้ได้ และหวังว่าปัญหาอย่าง FTX จะไม่เกิดขึ้นอีก
https://youtu.be/BhV3yX8ppek