ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดลบ 1.88 จุด ขาดปัจจัย เหตุใกล้หยุดยาว, สัปดาห์หน้าตามทิศทางดอกเบี้ย

          ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 824.80 จุด ลดลง 1.88 จุด(-0.23%) มูลค่าการซื้อขาย 20,820 ล้านบาท
          การซื้อขายหุ้นวันนี้ ช่วงเช้าดัชนีเคลื่อนกรอบแคบสลับบวกและลบ จากนั้นช่วงบ่ายดัชนีย่ำในแดนลบจนกระทั่งปิดตลาด โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 829.01 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 821.96 จุด
          ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 135 หลักทรัพย์ ลดลง 197 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 125 หลักทรัพย์
          น.ส.มยุรี โชวิกรานต์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้ขาดปัจจัยบวกและลบที่ชัดเจนที่จะกำหนดทิศทางของตลาดในช่วงนี้ และวอลุ่มวันนี้ที่ขึ้นมาส่วนหนึ่งมาจากบิ๊กล็อตของ บมจ.ผาแดงอินดัสทรี(PDI) ถ้าตัดวอลุ่ม PDI ออกไป 6,000 กว่าล้านบาท วอลุ่ม 10,000 กว่าล้านบาท ค่อนข้างจะบางเพราะเป็นช่วงของ long weekend 
          ทิศทางสัปดาห์หน้ามี 2 ประเด็น คือเรื่องดอกเบี้ยในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)วันพุธ ต้องติดตามดูว่าจะลดดอกเบี้ยหรือเปล่า และวันพฤหัสฯจะมีการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป(ECB) กับธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ต้องดูว่าแนวโน้มจะคงอัตราดอกเบี้ยเหมือนครั้งที่ผ่านมาหรือเปล่า เพราะเงินเฟ้อในยุโรปกับที่อังกฤษค่อนข้างจะขยับตัวสูงมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะคงอัตราดอกเบี้ย
          "สัปดาห์หน้าแนะเล่นเก็งกำไรกลุ่มแบงก์กับอสังหาริมทรัพย์อย่างเดียวเพราะเป็นเรื่องอัตราดอกเบี้ยเป็นส่วนใหญ่ เช่น KBANK SCB ที่ตอนนี้ปรับลงมาค่อนข้างมากและความน่าสนใจเริ่มมีมากขึ้น ส่วนอสังหาฯ AP LH" น.ส.มยุรี กล่าว 
          ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ 
          SCB    มูลค่าการซื้อขาย 689.96 ล้านบาท ปิดที่  90.50 บาท ลดลง  1.50 บาท
          GSTEEL มูลค่าการซื้อขาย 665.35 ล้านบาท ปิดที่   1.06 บาท เพิ่มขึ้น 0.11 บาท
          BBL    มูลค่าการซื้อขาย 617.70 ล้านบาท ปิดที่ 141.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
          PTT    มูลค่าการซื้อขาย 581.80 ล้านบาท ปิดที่ 318.00 บาท ลดลง  2.00 บาท
          ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 482.67 ล้านบาท ปิดที่  98.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง