บมจ.เอกรัฐวิศวกรรม (AKR) คาดว่าในปี 51 จะมีงานใหม่เข้ามาราว 1,400 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นงานของภาคเอกชนที่มีการประมูลอย่างต่อเนื่องราว 1,000 ล้านบาท ส่วนงานภาครัฐคาดว่าจะได้รับราว 400 ล้านบาท โดยคาดว่าในช่วงไตรมาส 2/51-3/51 จะเป็นช่วงที่มีปริมาณงานออกมาประมูลมากขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ
นายจุลจิตต์ บุณยเกตุ ประธานคณะกรรมการ AKR กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมางานภาครัฐชะลอไปมาก แต่หลังจากที่มีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศ และมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็เชื่อว่าจะทำให้มีปริมาณงานเข้ามามากขึ้น แต่ขณะนี้ทั้งปีคาดว่าจะมีงานภาครัฐเปิดประมูลราว 2-3 พันล้านบาท คาดว่าจะชนะประมูลราว 400 ล้านบาท โดยในเดือนหน้าจะมีการประมูลงานสถานีไฟฟ้าย่อยมูลค่าประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท
ปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนงานภาครัฐประมาณ 30% ที่เหลือเป็นงานภาคเอกชน ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะมีปริมาณงานออกมาประมูลค่อนข้างมาก และบริษัทคาดว่าจะชนะประมูลราว 1 พันล้านบาท
ในด้านรายได้ คาดว่าในปีนี้จะเติบโตราว 100% มาที่ 3.5 พันล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,691.92 ล้านบาท โดยรายได้หลักจะมาจากกิจการของ บริษัท เอกรัฐโซลาร์ ที่บริษัทถือหุ้น 99.99% ซึ่งได้เริ่มผลิตในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา และความต้องการแผงโซลาร์เซลที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในต่างประเทศ ขณะที่ธุรกิจหม้อแปลงยังมีอัตราการเติบโตที่ดี แม้ว่าในปีก่อนจะชะลอตัวลง
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าในไตรมาส 1/51 รายได้ของบริษัทจะปรับตัวดีกว่าไตรมาส 1/50 เนื่องจากบริษัทจะมีการรับรู้รายได้ส่วนหนึ่งจากงานของการไฟฟ้าฝ่ายภูมิภาค(กฟภ.)ราว 100 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 60 ล้านบาทจะรับรู้ฯ ในไตรมาส 2/51
นายจุลจิตต์ กล่าวถึงความคืบหน้าในการนำเอกรัฐโซลาร์เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ คาดว่า จะสรุปการว่าจ้างที่ปรึกษาทางการเงิน(เอฟเอ)ได้ภายในเดือน เม.ย.51 ส่วนการเข้าจดทะเบียนขึ้นกับระยะเวลาและบรรยากาศในการลงทุนที่เหมาะสม แต่โดยส่วนตัวอยากเร่งให้ทันภายในปีนี้ แม้ว่าในเบื้องต้นน่าจะเป็นไปได้ในปี 52
--อินโฟเควสท์ โดย ศศิธร ซิมาภรณ์ โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--