(เพิ่มเติม) BANPU คงนโยบายขายล่วงหน้าปี52ที่ 60%,เล็งลงทุนอินเดีย,เสนอบอร์ดแตกพาร์

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday April 4, 2008 18:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

           นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บ้านปู (BANPU) เผยว่า บริษัทยังคงนโยบายขายถ่านหินล่วงหน้า 60% ซึ่งได้ขายล่วงหน้าในปี 52 ไปแล้ว  40%  ซึ่งเป็นราคาปัจจุบัน ส่วนของปี 51 บริษัทได้ขายล่วงหน้าไปแล้ว 80% โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 60 เหรียญ/ตัน 
และปีนี้จากราคาถ่านหินที่เพิ่มขึ้น ทำให้รายได้บริษัทในปี 51 เติบโต 25% จาก 3.24 หมื่นล้านบาทในปี 50 ถึงแม้ปริมาณการขายถ่านหินจะอยู่ในระดับ 20 ล้านตัน ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ขาย 19.3 ล้านตัน
อย่างไรก็ตามในปี 52 บริษัทคาดว่าจะมีกำลังการผลิตถ่านหินเพิ่มเติมเป็น 21 ล้านตัน โดยแหล่งถ่านหินที่เพิ่มขึ้นจะมาจากอินโดนีเซีย จำนวน 1 ล้านตัน
สำหรับการขยายธุรกิจปีนี้ บริษัทเตรียมงบลงทุน 330 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยจะขยายโครงการลงทุนไปยังเหมืองแห่งใหม่ที่จีน และอินโดนีเซีย ประเทศละ 1 แห่ง โดยได้เตรียมเงินทุนไว้ 230 ล้านเหรียญสหรัฐ และ จำนวน 45 ล้านเหรียญสหรัฐสร้างโรงไฟฟ้าขนาด 14 เมกะวัตต์ในอินโดนีเซีย และอีก 66 ล้านเหรียญสหรัฐ ใช้ขยายท่าเรือบอนตังที่อินโดนีเซีย
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนลงทุนเพิ่มในธุรกิจพลังงานทดแทน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาแนวทางการลงทุน คาดจะใช้เงินลงทุนประมาณ 1.2 พันล้านบาท โดยขณะนี้ศึกษาโครงการลงทุนแปลงสภาพถ่านหินเป็นน้ำมัน โครงการพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์
"ถ้าหากเราลงทุนทำโครงการแปลงถ่านหินเป็นน้ำมันซึ่งดำเนินธุรกิจคล้ายๆโรงกลั่น ถ้าราคาน้ำมันอยู่สูงกว่า 50-60 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ก็น่าจะทำ และคุ้มค่ากับการลงทุน ขณะนี้ เราอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ เพราะหากจะเลือกแนวทางนี้ บริษัทต้องมีถ่านหินจำนวนมาก" นายชนินท์ กล่าว
สำหรับการเข้าไปศึกษาการลงทุนในอินเดีย นายชนินท์ ยอมรับว่าบริษัทได้กลับเข้าไปศึกษาลู่ทางการลงทุนในอินเดีย จากก่อนหน้านี้ประมาณ 5-10 ปีที่แล้ว ที่บริษัทเข้าไปศึกษาและพบปัญหาข้อกฎหมายที่เข้มงวด การดำเนินการเป็นไปได้ยาก แต่ครั้งนี้มองว่า อินเดียมีการเปิดกว้างการลงทุนมากขึ้น และเชื่อว่าอินเดียน่าจะเป็นแหล่งผลิตถ่านหินจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตาม ความต้องการใช้ถ่านหินของแต่ละประเทศก็เพิ่มมากขึ้น อาจจะจำกัดการส่งออก ดังนั้นจึงต้องศึกษาตลาดที่อินเดียให้ดีก่อนเข้าไปลงทุน
สำหรับโครงการหงสาฯ ที่บริษัทถืออยู่ 35% เบื้องต้นคาดว่าบริษัทร่วมทุนในโครงการนี้จะกู้เงินจำนวน 2.2 พันล้านเหรียญสำหรับลงทุนโครงการดังกล่าว โดยจะสรุปแผนการลงทุนในปี 51
"ตอนนี้การเจรจาขายหุ้นบางส่วนให้กับพันธมิตรจากจีน ยังไม่ได้ข้อสรุป แต่หากไม่มีจีนเข้ามาถือหุ้น โครงการนี้ก็ยังจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ไม่มีปัญหาอะไร" นายชนินท์ กล่าว
*เตรียมพิจารณาแตกพาร์ตามข้อเสนอผู้ถือหุ้น
นายชนินท์ กล่าวว่า ผู้ถือหุ้นบางรายได้เสนอให้บริษัทแตกพาร์ ในที่ประชุมวันนี้ ซึ่งก็ยอมรับว่า ผู้บริหารบริษัทถูกถามเรื่องแตกพาร์มาอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่เคยมีการพูดคุยกันในที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท แต่ครั้งนี้ คิดว่าจะนำข้อเสนอของผู้ถือหุ้นเสนอต่อคณะกรรมการบริษัทเพื่อพิจารณา
"การแตกพาร์ เราต้องคิดกันให้รอบคอบ ว่าตั้งแต่ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เราก็ศึกษาเรื่องนี้มา 2 ปี แล้ว แต่เราไม่ได้มีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง การซื้อขายก็ยังอยู่ในระดับสภาพคล่องที่ดีและสูงขึ้น" นายชนินท์ กล่าว
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา ราคาหุ้น BANPU ได้ปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่อง นายชนินท์ คาดว่าเป็นไปตามภาวะผันผวนของราคาถ่านหินในตลาดโลก รวมถึง ข่าวสารต่างๆในอุตสาหกรรมถ่านหินที่ออกมาในแง่ลบ ซึ่งจะเห็นได้บริษัทจดทะเบียนที่ดำเนินธุรกิจถ่านหินในตลาดหุ้นต่างประเทศ เช่น เซี่ยงไฮ้ ฮ่องกง อินโดนีเซีย และ ออสเตรเลีย ต่างปรับตัวในทิศทางผันผวนและลดลงเช่นเดียวกับหุ้น BANPU ดังนั้น นักลงทุนจึงต้องติดตามข่าวสารสถานการณ์ถ่านหินอย่างใกล้ชิด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ