ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (4 เม.ย.) หลังจากที่มีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานรายเดือนที่ลดลงมากที่สุดในรอบ 5 ปี
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลดลง 16.61 จุด หรือ 0.13% แตะระดับ 12,609.42 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 1.09 จุด หรือ 0.08% แตะระดับ 1,370.40 จุด และ ดัชนี Nasdaq ปิดดีดขึ้น 7.68 จุด หรือ 0.32% แตะระดับ 2,370.98 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 3.59 พันล้านหุ้น ลดลงจากวันพฤหัสบดีที่ 3.77 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 3 ต่อ 2
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนมี.ค.2551 ลดลง 80,000 ตำแหน่ง มากสุดนับแต่เดือนมี.ค.2546 และอัตราว่างงานเพิ่มขึ้น 5.1% สูงสุดตั้งแต่เดือนก.ย.2548 ซึ่งเป็นเสมือนการยืนยันสมมุติฐานของนักลงทุนส่วนใหญ่ว่าเศรษฐกิจกำลังชะลอตัวในวงกว้าง ส่งผลให้นักลงทุนบางส่วนที่มีความวิตกกังวลหนีไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลแทน เนื่องจากเป็นเรื่องปกติที่นักลงทุนมักหันไปหาการลงทุนที่ปลอดภัยกว่า ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจเช่นนี้
อย่างไรก็ดี แม้รายงานตัวเลขจ้างงานเดือนล่าสุดจะเป็นการส่งสัญญาณย้ำเตือนว่าเศรษฐกิจอยู่ในช่วงขาลงแล้วจริงๆ แต่ก็ถือเป็นตัวเลขที่สอดคล้องกับที่นักลงทุนได้คาดการณ์ไว้อยู่แล้ว แถมนักลงทุนบางรายยังรู้สึกว่าตัวเลขดังกล่าวไม่สูงนักเมื่อเทียบกับที่นักเศรษฐศาสตร์บางรายคาดว่าจะร่วงลงถึง 150,000 ตำแหน่ง
"ข้อมูลเศรษฐกิจเป็นลบ ตัวเลขว่างงานจะสูงขึ้นอีกจนกว่าภาวะถดถอยจะสิ้นสุดลง แต่ผมคิดว่าที่สิ่งที่ตลาดกำลังพยายามที่จะบอกเราก็คือ เราก็เคยเผชิญข่าวร้ายแบบนี้มาอยู่ก่อนแล้ว" อาร์เธอร์ โฮแกน จาก Jefferies & Co. กล่าว
ทั้งนี้ บททดสอบสำคัญครั้งต่อไปของตลาดก็คือการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกของบริษัทต่างๆในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดยนักลงทุนจับตามองเป็นพิเศษว่าแนวโน้มของบริษัทต่างๆในช่วงระยะเวลาที่เหลืออยู่ของปีนี้เป็นอย่างไร ซึ่งหากออกมาน่าผิดหวัง ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทก็อาจกลับมาผันผวนดังเช่น 2-3 เดือนที่ผ่านมาอีก
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--