นางสาวอุษณา มหากิจศิริ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA) เปิดเผยว่า การพัฒนาโครงกคอนโดมิเนียม 125 สาทร มูลค่า 8 พันล้านบาท จะเริ่มก่อสร้างในช่วงปลายปี 65 และคาดว่าจะแล้วเสร็จสามารถส่งมอบให้กับลูกค้าได้ภายในปี 69 โดยโครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนสินเชื่อจากธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) วงเงิน 1.7 พันล้านบาท เพื่อนำมารองรับการพัฒนาโครงการ โดยปัจจุบันบริษัทได้เริ่มการขายไปแล้ว และมีลูกค้าให้ความสนใจในการตอบรับโครงการเป็นอย่างดี ซึ่งมียอดขายเข้ามาแล้วกว่า 50% ซึ่งคาดว่าจะยังเห็นยอดขายที่สามารถเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากลูกค้าชาวไทยและต่างชาติที่มองหาคอนโดมิเนียมที่อยู่ในทำเล CBD ใกล้รถไฟฟ้า และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ โดยยอดขายที่เข้ามาจากลูกค้าที่จองไปแล้ว แบ่งเป็น ลูกค้าชาวไทย 70% และลูกค้าชาวต่างชาติ 30%
ด้านกลยุทธ์การตลาดของโครงการ 125 สาทร ถือว่าเป็นทำเลที่ได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติอยู่แล้ว ซึ่งเป็นทำเลที่เหมาะกับการอยู่อาศัยและรองรับการทำงานในระยะยาว อีกทั้งการที่มีพันธมิตรญี่ปุ่น คือ คันเดน เรียลตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ร่วมทุนโครงการ 125 สาทร ยังทำให้การทำการตลาดของโครงการดังกล่าวสามารถขยายกลุ่มลูกค้าไปยังกลุ่มลูกค้าระดับบนที่เป็น High Networth ได้มากขึ้นและรวดเร็ว ประกอบกับการทำแผนโรดโชว์ในต่างประเทศร่วมกับพันธมิตร ทำให้ลูกค้าต่างชาติให้การตอบรับที่ดี ทำให้เชื่อมั่นว่าจะสามารถทำยอดขายได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
สำหรับแนวโน้มภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 66 มองว่าตลาดอาจจะมีการการทรงตัวหรือชะลอตัวลงบ้างจากปีนี้ เนื่องจากปัจจัยที่กดดันต่อกำลังซื้อ และความมั่นใจของผู้ซื้อยังมีอยู่ โดยเฉพาะในเรื่องของแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกในปีหน้า ซึ่งอาจจะมีผลต่อภาวะเศรษฐกิจไทยด้วย ทิศทางอัตราดอกเบี้ยนและเงินเฟ้อ รวมถึงการผ่อนคลาย LTV ของไทยที่สิ้นสุดลงไป ทำให้เป็นปัจจัยที่สร้างความท้าทายให้กับผู้ประกอบการภาคอสังหาริมทรัพย์ไทยในปีหน้า ซึ่งต่อเนื่องมากจากปีนี้ ทำให้การวางแผนงานในปีหน้ายังต้องมีความระมัดระวัง
โดยที่แผนการเปิดโครงการใหม่ในปี 66 ของบริษัทยังคงมีการเดินหน้าเปิดโครงการใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งยังคงเป็นการพัฒนาโครงการระดับบน ที่ตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพ และยังเป็นโครงการที่ร่วมทุนกับพันธมิตรญี่ปุ่น คือ คันเดน เรียลตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ เช่นเดียวกัน โดยคาดว่าจะมีการเปิดโครงการใหม่อย่างน้อย 1 โครงการในปีหน้า
สำหรับกลุ่มเป้าหมายลูกค้าของบริษัทยังคงเน้นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายระดับบนเป็นหลัก ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง และไม่มีความเปราะบางและได้รับผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนมาก รวมถึงการพึ่งพาสินเชื่อจากสถาบันการเงินค่อนข้างน้อยมาก และยังเป็นกลุ่มที่มองในเรื่องการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นทางเลือกหนึ่งในการลงทุนที่สามารถสู้กับเงินเฟ้อได้ และมีมูลค่าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
โดยทำเลสาทรซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการ 125 สาทร มีการเติบโตแบบก้าวกระโดดพุ่งสูงเป็นอันดับที่ 2 ของราคาที่ดินทั่วกรุงเทพฯ ด้วยราคา 2.5 ล้านบาท/ตารางวา และมีแนวโน้มปรับราคาเพิ่มเฉลี่ยปีละ 2-3% ด้วยศักยภาพที่ยังไม่สิ้นสุด จากการที่มีโครงการคอมมูนิตี้ชั้นนำ และสิ่งอำนวยความสะดวกมากที่สุด ตลอดจนโครงการเมกะโปรเจ็กต์ใหม่ๆที่กำลังจะเกิดขึ้นภายใน 3-5 ปีข้างหน้า ที่จะเข้ามาสร้างสีสัน และเติมเต็มการใช้ชีวิตหรือไลฟ์สไตล์ของคนในพื้นที่มากขึ้น ทำให้ย่านนี้เป็นที่ต้องการอย่างมากในกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงในระดับราคาที่เข้าถึงได้
อย่างไรก็ตามสัดส่วนรายได้ในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่ม TTA ยังจะมีสัดส่วนไม่มาก เนื่องจากในตอนนี้ยังมีเพียงโครงการเดียว และยังต้องรอการรับรู้รายได้เข้ามาในปี 69 ทำให้ปัจจุบันยังไม่มีสัดส่วนรายได้ในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีผลนัยสำคัญต่อภาพรวมของกลุ่ม TTA สัดส่วนรายได้หลักของ TTA ยังคงมาจากธุรกิจขนส่งทางเรือ (ชิปปิ้ง) อยู่ที่ 60% ส่วนที่เหลือนั้นมาจากธุรกิจบริการนอกชายฝั่งทะเล และธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น ซึ่งทางบริษัทมีการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆเข้ามาเสริมในพอร์ต เพื่อสร้างการเติบโตให้กับกลุ่มมากขึ้น