ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (7 เม.ย.) อย่างไรก็ตาม ตลาดเคลื่อนตัวผันผวนเนื่องจากนักลงทุนจำนวนมากปลีกตัวออกไปอยู่นอกตลาดก่อนที่บริษัทเอกชนจะเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาส
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 3.01 จุด หรือ 0.02% แตะระดับ 12,612.43 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดขยับขึ้น 2.12 จุด หรือ 0.15% แตะระดับ 1,372.52 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลดลง 6.15 จุด หรือ 0.26% แตะระดับ 2,364.83 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.3 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 17 ต่อ 14 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 1.7 พันล้านหุ้น
นายไรอัน เดทริค นักวิเคราะห์จากบริษัทเชฟเฟอร์ส อินเวสท์เมนท์ รีเสิร์ช กล่าวว่า "ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นปิดในแดนบวกหลังจากร่วงลงเมื่อวันก่อนเพราะตัวเลขจ้างงานของสหรัฐดิ่งลงติดต่อกัน 3 เดือน โดยปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดดีดตัวขึ้นมาจากข่าวที่ว่าบริษัทวอชิงตัน มิวชวล อิงค์ อาจจะได้รับเงินลงทุน 5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นวอชิงตัน มิวชวล พุ่งขึ้น 29%"
นอกจากนี้ ข่าวในด้านบวกจากวอชิงตัน มิวชวล ช่วยหนุนหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มการเงินดีดตัวขึ้น โดยหุ้นเมอร์ริล ลินช์ พุ่งขึ้น 2.8% หุ้นแบร์ สเติร์นส์ ดีดขึ้น 20 เซนต์ ปิดที่ 10.37 ดอลลาร์ และหุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 2.8%
หุ้นดิสคัฟเวอร์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิสเซส แอลแอลซี พุ่งขึ้น 5.5% และหุ้นซิตี้กรุ๊ป ดีดขึ้น 2.2% หลังจากมีข่าวว่า บริษัทดิสคัฟเวอร์ ไฟแนนเชียล เข้าซื้อเครือข่ายบัตรเครดิต ไดเนอร์ส คลับ อินเตอร์เนชั่นแนล จากซิตี้กรุ๊ป เป็นวงเงินมูลค่า 165 ล้านดอลลาร์
นักลงทุนส่งคำสั่งซื้อเข้ามาประปราย แต่หุ้นอัลโคดิ่งลง 4% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่ารายได้สุทธิไตรมาสแรกร่วงลง 54% ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดีไวเซส (เอเอ็มดี) ร่วงลง 2.7% ซึ่งทำให้บรรยากาศการซื้อขายซบเซาลงด้วย หลังจากบริษัทประกาศว่าจะลดจำนวนพนักงานลง 10% ซึ่งเป็นผลมาจากยอดขายไตรมาสแรกลดลงมากเกินคาด
ส่วนหุ้นกลุ่มอื่นๆร่วงลงหลังราคาน้ำมันพุ่งขึ้นใกล้ระดับสูงสุดครั้งใหม่เป็นประวัติการณ์ ขณะที่มีข่าวว่า โรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งในสหรัฐเตรียมเดินเครื่องการผลิตเต็มสูบเพื่อรับมือกับความต้องการที่จะพุ่งสูงขึ้นในฤดูร้อน ทั้งนี้ หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก ร่วงลง 0.8%
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลงหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนมี.ค.2551 ร่วงลง 80,000 ตำแหน่ง สูงกว่าที่นักวิเคราะห์จากโพลล์ของธอมสัน ไอเอฟอาร์ คาดว่าจะลดลงเพียง 50,000 ตำแหน่ง ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2546 ที่อัตราจ้างงานนอกภาคการเกษตรปรับตัวลดลง 3 เดือนติดต่อกัน และถือเป็นการลดลงมากที่สุดในรอบ 5 ปี นับตั้งแต่เดือนมี.ค.2546
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--