นายชาคริต ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บมจ.ซีแพนเนล (CPANEL) เปิดเผยว่า บริษัทปรับเพิ่มเป้ารายได้ปี 65 เป็นเติบโต 35% จากเดิม 25% พร้อมเพิ่มความสามารถการทำกำไรอย่างต่อเนื่อง โดยการเติบโตที่เพิ่มขึ้นมาจากการพัฒนาระบบการผลิตอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันบริษัทสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้มากขึ้นถึง 10% พร้อมลดความผิดพลาด ความสูญเสียในการผลิต เพิ่มโอกาสการรับงานและส่งมอบงานที่มีคุณภาพได้รวดเร็วขึ้น
การดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีนี้ยังมีแนวโน้มที่ดี จากภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ค่อนข้างคึกคักอานิสงส์จากการเปิดประเทศ การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ประกอบกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ การจัดโปรโมชั่นทิ้งท้ายช่วงสิ้นปี และเร่งส่งมอบงาน ส่งผลให้มีความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ Precast Concrete มากขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทมีมูลค่ายอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ 1.03 พันล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ Precast Concrete ในปี 66 ยังมองว่ามีแนวโน้มที่สูงขึ้น จากการที่ผู้ประกอบกการภาคอสังหาริมทรัพย์มีการเปิดโครงการใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการบ้านแนวราบที่ยังมีทิศทางการเติบโตขึ้นตั้งแต่ช่วงโควิด-19 เป็นต้นมา ทำให้การใช้ Precast Concrete ยังมีปริมาณที่สูงต่อเนื่อง ประกอบกับภาคการท่องเที่ยวที่กลับมา ทำให้ผู้ประกอบการโรงแรมมีการกลับมาเดินหน้าก่อสร้างโรงแรมอีกครั้ง ซึ่งเป็นอีกปัจจัยหนุนที่ช่วยให้การใช้ Precast Concrete เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ในส่วนของภาคอุตสาหกรรมมีการลงทุนก่อสร้างโงงานมากขึ้น โดยเฉพาะโครงการในนิคมภาคตะวันออกที่เริ่มเห็นผู้ประกอบการจากต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น อีกทั้งในกลุ่มของโครงการก่อสร้างโรงพยาบาลยังเป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่บริษัทมองเห็นโอกาสในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ Precast Concrete ที่ทางโรงพยาบาลต่างๆเริ่มให้การยอมรับ ทำให้เป็นปัจจัยหนุนที่จะสร้างการเติบโตให้กับบริษัทได้ต่อในปี 66
ขณะเดียวกันบริษัทยังคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน จึงใส่ใจในการออกแบบระบบการผลิตอย่างรัดกุม โดยทำการติดตั้งระบบเครื่องกำจัดมลภาวะทางอากาศ (Dust Collector) กักเก็บฝุ่น และผงปูนซีเมนต์ในระหว่างขั้นตอนการผลิต ซึ่งระบบดังกล่าว นอกจากช่วยกักเก็บฝุ่นไม่ให้ฟุ้งกระจายแล้วยังสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ประมาณ 675 กิโลกรัม/เดือน