นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์-รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้ย่อตัวลงตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย และตลาดหุ้นในฝั่งสหรัฐ ตอบรับตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 47.7 ในเดือนพ.ย. จากระดับ 50.4 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง ส่งผลให้นักลงทุนกังวลภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวลง ประกอบกับคาดว่าอาจได้เห็นแรงขายทำกำไรในหุ้น DELTA จากวานนี้ปรับตัวขึ้นไปค่อนข้างมากด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีปัจจัยลบจากต่างประเทศ แต่ยังมีสัญญาณบวกจากในประเทศอยู่บ้าง จากการซื้อสุทธิหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติ โดยวานนี้ซื้อสุทธิรวม 2,667 ล้านบาท กองทุนในประเทศซื้อสุทธิรวม 1,331 ล้านบาท และยังมีแนวโน้มที่นักลงทุนต่างชาติจะเข้าซื้อสุทธิหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง หลังจากเงินบาทแข็งค่าสุดในรอบ 6 เดือน ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อเงินทุนไหลเข้า
ให้แนวรับไว้ที่ 1,640-1,635 จุด และแนวต้าน 1,650-1,655 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (1ธ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,395.01 จุด ลดลง 194.76 จุด หรือ -0.56%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,076.57 จุด ลดลง 3.54 จุด หรือ -0.09% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,482.45 จุด เพิ่มขึ้น 14.45 จุด หรือ +0.13%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 28,273.13 จุด เพิ่มขึ้น 304.14 จุด หรือ +1.09% ก่อนพลิกสู่แดนลบที่ 27,773.50 จุด ร่วงลง 452.58 จุด หรือ -1.60% หลังเปิดตลาดได้ 15 นาที, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 18,785.28 จุด เพิ่มขึ้น 48.84 จุด หรือ +0.26% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,160.58 จุด ลดลง 4.89 จุด หรือ -0.15%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (1 ธ.ค.65) 1,648.44 จุด เพิ่มขึ้น 13.08 จุด, +0.80%
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,313.01 ลบ.เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.65
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. (1 ธ.ค.) เพิ่มขึ้น 67 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 81.22 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (1 ธ.ค.) อยู่ที่ 8.39 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 34.82 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าในรอบกว่า 5 เดือน หลังดอลลาร์อ่อน-บอนด์ยีลด์ลด
- "เครดิตบูโร" เปิดข้อมูลหนี้รายย่อยไตรมาส 3 พบหนี้เสียทั้งระบบทะลุ 1.1 ล้านล้านบาท เอ็นพีแอลแตะ 8.5% ขณะที่ หนี้ค้างชำระพุ่งต่อเนื่อง ห่วงสินเชื่อบุคคล เบี้ยวหนี้พุ่ง โดยเฉพาะกลุ่มเจนวาย-เจนเอ็กซ์กว่า 5 ล้านบัญชี แนะเร่งช่วยลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หวั่นปัญหาลามกระทบจ้างงาน
- "เจ้าสัวซีพี" หนุนต่างชาติซื้อที่ดิน ชี้เงินไหลเข้ามาลงทุน-จ้างงานในไทย ยืนยันไม่ใช่การขายชาติ เสนอเชื่อมรถไฟความเร็วสูง 3 สนามบิน ต้องไม่หยุดแค่ในไทย หนุนเชื่อมประเทศเพื่อนบ้าน
- กสทช.ส่งหนังสือด่วนที่สุดถึง กกท.ทวงเงินคืนค่าสนับสนุนซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 จำนวน 600 ล้านบาท เหตุผิดเงื่อนไขเอ็มโอยู หลังกล่องไอพีทีวี "จอดำ" ด้านจานดำ C-Band อดดูตลอดรายการ กกท.แจ้งฟีฟ่าเตือนสัญญารั่วแล้ว 6 ครั้ง
*หุ้นเด่นวันนี้
- COM7 (กรุงศรี) "ซื้อ" IAA Consensus 40.5 บาท เป็นตัวเต็งเข้าคำนวณในดัชนี SET50 รอบใหม่ สัปดาห์หน้ายังคาดหวัง ครม. อนุมัติมาตรการ "ช้อปดีมีคืน" เพิ่มเงินหักลดหย่อนภาษีจาก 3 หมื่นบาทเป็น 4 หมื่นบาท
- KCE (ดาโอ) "ซื้อ" เป้าเชิงกลยุทธ์ 54.00 บาท แนะนำทยอยซื้อสะสมประเมินราคาหุ้น KCE ผ่านจุดต่ำสุดและ Bottom out แล้ว (ปรับฐานไป -42%YTD) ขณะที่กำไร 9 เดือนของปี 65 ออกมาดีกว่าคาด ต่อเนื่องด้วยแนวโน้มไตรมาส 4/65 ที่ดี รวมถึงการผ่อนคลายมาตรการโควิดจีนและการเปิดประเทศในปี 66 หนุน Demand และการขนส่งสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกให้เพิ่มขึ้น ขณะที่ปัญหาด้าน Supply Chain Semi-Conductor เริ่มผ่อนคลาย
- MAKRO (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อเก็งกำไร" ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 40.50 บาท แนวโน้ม Q4/65 จะฟื้นตัว QoQจาก High Season การจับจ่ายใช้สอย การท่องเที่ยว และได้ประโยชน์จากรัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจท้ายปี ส่งผลบวกต่อ SSSG กลับมาเติบโตทั้ง MAKRO และ Lotus?s ขณะที่ปี 66 จะเห็นโมเมนตัมโตต่อเนื่องจาก Synergy ธุรกิจที่ซื้อเข้ามา ค่าใช้จ่าย SG&A ลดลง และแผนปรับโครงสร้างหนี้ ยังมีปัจจัยบวกจากการเพิ่ม Free Float ทำให้มีโอกาสเข้าไปอยู่ในดัชนี MSCI FTSE SET50