บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) หรือ DBSV ประเมินหุ้น บมจ.เอสโซ่ (ประเทศไทย) หรือ (ESSO) ที่จะกระจายหุ้น IPO 21-22 เม.ย.51 และจะเข้าซื้อในตลาดฯได้ประมาณ 6 พ.ค.51 ว่า Valuation ในเบื้องต้น บนราคา IPO 9-13 บาท คาดว่าจะมี PE ปี 51 เท่ากับ 5-7 เท่า และมี PBV เท่ากับ 0.8-1.1 เท่า นับว่าไม่สูงเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของภูมิภาคที่มีค่า PE ปี 51 เฉลี่ยเท่ากับ 8-9 เท่า
เมื่อเปรียบเทียบกับหุ้นที่ทำธุรกิจโรงกลั่นแบบคอมเพล็กซ์ที่มีผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีสายอะโรเมติกส์เหมือนกับ ESSO ในตลาดฯ คือ TOP และ PTTAR แล้ว เห็นว่า Valuation ของ ESSO, TOP, PTTAR ใกล้เคียงกัน แต่ TOP มีกำลังการผลิตของโรงกลั่นสูงที่สุดที่ 2.75 แสนบาร์เรลต่อวัน จึงจะได้ปรับประโยชน์จากค่าการกลั่นที่ทรงตัวสูงมากกว่าบริษัทอื่น
ด้านอะโรเมติกส์ มองว่า PTTAR แข็งแกร่งที่สุด โดยมีกำลังการผลิตสูงถึง 1.16 ล้านตันต่อปี ซึ่งปริมาณขายที่สูงจะสามารถชดเชยกับ Spread ที่ต่ำลง ดังนั้นจึงคงให้ TOP เป็นหุ้น Top pick ในกลุ่มโรงกลั่น ส่วนความน่าสนใจของ ESSO คงจะเป็นเรื่องของการเป็นหุ้นน้องใหม่ และจะจ่ายปันผลระหว่างกาลในอีก 2-3 เดือนข้างหน้าบน Dividend Yield 7.7-11.1% เป็นหลัก
โครงสร้างผู้ถือหุ้นของ ESSO ก่อน IPO เป็นบริษัทในเครือเอ็กซอน โมบิล คอร์ปอเรชั่น 87.5% และกระทรวงการคลัง 12.5% ส่วนหลัง IPO ทางบริษัทในเอ็กซอนฯจะเหลือ 67.5% (ไม่มีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) และเป็น 65.9% (มีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) กระทรวงการคลังเป็น 0% ส่วนที่เหลือเป็นรายย่อย
--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--