นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ (LALIN) เปิดเผยว่า บริษัทเดินหน้าพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบต่อเนื่อง โดยได้กระจายการพัฒนาทำเลที่เป็นย่านเศรษฐกิจโดยรอบกรุงเทพฯ เพราะเล็งเห็นถึงความพรั่งพร้อมกับปัจจัยที่เอื้อต่อการอยู่อาศัยที่มากคุณภาพ ซึ่งหนึ่งในทำเลที่มีการพัฒนาโครงการเมกะโปรเจกต์ระดับประเทศในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาก็คือโซนกรุงเทพฯ ใต้ โดย ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ มั่นใจว่าหากโครงการระดับเมกะโปรเจกต์ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาแล้วเสร็จนั้นจะทำให้ย่านดังกล่าวมีความพร้อมที่จะกลายเป็นถนนสายเศรษฐกิจที่สำคัญแห่งใหม่ของประเทศไทย ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อปัจจัยด้านคมนาคมและด้านสาธารณูปโภคต่างๆ มีศักยภาพที่ครบครัน ก็จะสามารถทำให้เอื้อต่อการพัฒนาสู่ชุมชนเมืองที่มากคุณภาพในอนาคตได้เป็นอย่างดี
ปัจจุบันผู้บริโภคค่อนข้างเห็นคุณค่าและปรับเปลี่ยนความคิดมาเลือกซื้อบ้านแนวราบเพิ่มมากขึ้น ซึ่งหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลช่วยกระตุ้นกำลังซื้อคือความสะดวกสบายในด้านการคมนาคม ที่สามารถเชื่อมต่อระหว่างใจกลางเมืองสู่ย่านชานเมืองได้อย่างคล่องตัวและสามารถเลือกเดินทางได้หลายทางเลือกมากขึ้น อีกทั้งทัศนคติของผู้บริโภคในการให้คำนิยามคำว่า "บ้าน" เปลี่ยนไปจากอดีตที่จะเน้นเพื่อการอยู่อาศัยเป็นหลัก
แต่ปัจจุบัน "บ้าน" ในมุมมองของผู้บริโภคจะต้องเป็นมากกว่าบ้านในอดีต เพราะต้องมีฟังก์ชันที่เอื้ออำนวยความสะดวกให้สามารถทำงานที่บ้านได้ มีมุมสันทนาการของสมาชิกในครอบครัว และที่สำคัญต้องเป็นเซฟโซนให้ทุกคนในบ้านสัมผัสได้ถึงความปลอดภัยจากโรคอุบัติใหม่ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน จากการเปลี่ยนแปลงของมุมมองผู้บริโภคดังกล่าวทำให้บริษัทฯ ได้นำปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อเหล่านั้นมาเป็นพื้นฐานในการพัฒนาโครงการใหม่ๆให้ตอบโจทย์ผู้พักอาศัยมากยิ่งขึ้น
นอกจากจะสร้างสรรค์แนวคิดที่โดดเด่นในเรื่องการออกแบบภายในสู่ภายนอกแล้ว เรื่องทำเลและที่ตั้งของโครงการก็ถือเป็นอีกปัจจัยที่ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ให้ความสำคัญอย่างมาก "การพัฒนาโครงการใหม่ของบริษัทจะต้องตั้งอยู่ในย่านที่สามารถอยู่อาศัยได้อย่างมีคุณภาพในทำเลรอบๆกรุงเทพฯ และหนึ่งในทำเลที่น่าจับตาในปัจจุบันก็คือโซนกรุงเทพฯใต้ ซึ่งนอกจากจะเป็นย่านที่อยู่อาศัยแล้ว ยังเป็นย่านที่มีแหล่งอุตสาหกรรม และกลุ่มธุรกิจ SMEs เกิดขึ้นจำนวนมาก
ปัจจัยดังกล่าวทำให้แบรนด์ต่างๆ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ แหล่งสถานศึกษาชื่อดัง หรือแม้กระทั่งโรงพยาบาลขนาดใหญ่ เล็งเห็นถึงศักยภาพในการพัฒนาธุรกิจเพื่อรองรับกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ส่งผลให้ปัจจุบันโซนกรุงเทพฯใต้ เกิดการพัฒนาเครือข่ายคมนาคมหลายโปรเจกต์ ได้แก่ การพัฒนาถนนเส้นหลัก 14 เลน, การพัฒนาโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ (เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 70 ทางพิเศษเส้นพระราม3 ? ดาวคะนอง ? วงแหวนตะวันตก ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 67 และมอเตอร์เวย์ สายบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 68
"การพัฒนาโครงการต่างๆในบริเวณกรุงเทพฯใต้ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นให้โซนกรุงเทพฯ ใต้ จะกลายเป็นหนึ่งในแหล่งที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคที่ต้องการครอบครองอย่างแน่นอน" นายชูรัชฏ์ กล่าว
ล่าสุด ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ได้ทุ่มงบกว่า 1.1 พันล้านบาท พัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวใหม่ แลนซีโอ คริป 2 สุขสวัสดิ์-ประชาอุทิศ 90 ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 4-6 ล้านบาท และโครงการทาวน์โฮม ไลโอ สุขสวัสดิ์-ประชาอุทิศ 90 ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2-4 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการในระดับราคาที่จับต้องได้ในกลุ่มสินค้าแนวราบ ที่ตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพบนกรุงเทพฯใต้ ล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และการออกแบบบ้านที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่