หุ้น SGC ปิดภาคเช้าพุ่ง 24.54% มาอยู่ที่ 4.74 บาท เพิ่มขึ้น 0.84 บาท มูลค่าซื้อขาย 3,916.28 ล้านบาท จากราคาเปิดเทรดวันแรกที่ 4.06 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 4.98 บาท และราคาต่ำสุดที่ 4.06 บาท
บล.เอเซีย พลัส ให้ราคาเป้าหมาย บมจ.แอสจี แคปปิตอล (SGC) ปี 66 ที่ 6.20 บาท ตอบรับโอกาสเติบโตอีกมากในระยะยาว
SGC เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าและจำนำทะเบียนรถบรรทุก ที่มีศักยภาพเติบโตอีกมากในระยะยาว หลังระดมทุน IPO รองรับแนวโน้มความต้องการใช้สินเชื่อเพิ่มขึ้น โดยอุตสาหกรรมสินเชื่อจำนำทะเบียนรถบรรทุกที่ใหญ่มาก และ SGC มีโอกาสเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดจากผู้ให้บริการสินเชื่อท้องถิ่นมากขึ้น จากจุดเด่นให้บริการสินเชื่อดี อนุมัติเร็ว และมีระบบพิจารณาความเสี่ยงของลูกหนี้ได้ดี
แนวโน้มกำไรสุทธิปี 2565-2567 ของ SGC จะเติบโต 9% yoy, 43% yoy และ 36% yoy ตามลำดับ จากการเร่งปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถบรรทุกมากขึ้น นอกจากนี้ยังได้ผลบวกจากแนวโน้มค่าใช้จ่ายทางการเงินลดลงหลังจากได้เงินระดมทุนจาก IPO พร้อมก้าวเป็นผู้นำสินเชื่อจำนำทะเบียนรถบรรทุกในปี 2569
SGC เป็นผู้ให้บริการทางการเงินที่มิใช่สถาบันทางการเงิน (Non-bank) ประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกันทั้งหมด 4 ประเภท ได้แก่ 1) สินเชื่อเช่าซื้ออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องจักร ได้แก่ เครื่องใช้ในครัวเรือน (ตู้เย็น เครื่องซักผ้าและเครื่องปรับอากาศ เป็นต้น) เครื่องใช้ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (ตู้เติมเงิน ตู้แช่แข็ง และตู้เติมน้ำมัน เป็นต้น) และเครื่องจักร (เครื่องมือทางการแพทย์ เครื่องสกรีนผ้า และเครื่องพิมพ์ขนาดใหญ่ เป็นต้น) 2) สินเชื่อรถทำเงิน (สินเชื่อจำนำทะเบียน) โดยเน้นรถเพื่อการพาณิชย์เป็นหลัก เช่น รถบรรทุก รถกระบะและรถตู้ เป็นต้น 3) สินเชื่อสวัสดิการพนักงาน และ 4) สินเชื่อผ่อนทองออนไลน์และอื่นๆ
SGC ตั้งเป้าหมายสินเชื่อสุทธิ ณ สิ้นปี 2569 ที่ 5 หมื่นล้านบาท เติบโตสูงถึง 35% p.a. (CAGR) จากปี 2564 โดยเน้นกลยุทธ์หาลูกค้าใหม่มากขึ้น จากจุดเด่นด้านการบริการ เครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศและอนุมัติสินเชื่อเร็ว โดยจะเน้นสินเชื่อจำนำทะเบียนรถบรรทุกเป็นหลัก ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตอีกมากในระยะยาว
ทิศทางกำไรสุทธิจะเติบโตก้าวกระโดดในปี 2566-2567 คาดการณ์กำไรสุทธิจะเติบโต 8.6% yoy, 42.9% yoy และ 35.5% yoy ตามลำดับ จากแนวโน้มสินเชื่อสุทธิจะเติบโต 37.7% yoy 31.4% yoy และ 32.1% yoy ตามลำดับ จากการเร่งปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถบรรทุกมากขึ้น นอกจากนี้ ยังได้ผลบวกจากแนวโน้มค่าใช้จ่ายทางการเงินลดลงหลังจากได้เงินระดมทุนจาก IPO