TACC ราคาพุ่ง 5.60% รับแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/65 โตทั้ง QoQ และ YOY และรายได้ปี 66 คาดโตต่อเนื่อง 10% ตามการขยายสาขาทั้ง 7-Eleven และ Non 7-Eleven ตลอดจนแผนการขยายตลาดใหม่ในต่างประเทศและไลน์สินค้าใหม่
เมื่อเวลา 11.24 น.ราคาหุ้น TACC เพิ่มขึ้น 5.60% หรือเพิ่มขึ้น 0.35 บาท มาที่ 6.60 บาท จากราคาเปิด 6.30 บาท ราคาสูงสุด 6.65 บาท และต่ำสุด 6.30 บาท
บล.โกลเบล็ก ระบุในบทวิเคราะห์ให้ราคาเหมาะสมหุ้น บมจ.ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ (TACC) ที่ 9.50 บาท มีมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลงานไตรมาส 4/65 คาดเดิบโต YOY Q0Q ส่วนปี 66 คาดโตต่อเนื่องราว 10% จากปีนี้ จากการขยายของ 7-Eleven และ Non 7-Eleven ตลอดจนแผนการขยายตลาดใหม่ อาทิ 7-Eleven ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งปัจจุบันทดลองขายชาไทยไปแล้วราว 200 สาขา จากที่มีทั้งหมด 2,000 สาขา รวมทั้งแผนการรุกตลาด Health&Wellness ทั้งผลิตภัณฑ์ใหม่ อาทิ ไซรัปแบรนด์ TRIVA และแผน M&A ซึ่งคาดจะได้เห็นเร็วๆ นี้
ไตรมาส 3/65 TACC ทำรายได้ 382 ล้านบาท +23% YoY และทรงตัว Q0Q เติบโตจากสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้นกว่าปีก่อน รวมทั้งการขยายสาขา 7-Eleven (ไทยและกัมพูซา) และ Non 7-Eleven (Lotus's และ ร้าน Cafe) แต่ %GPM ปรับลงมาที่ 35.1% (ไตรมาส 3/64 = 38.2%, ไตรมาส 2/65 =36.8%) จากราคาตันทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้งวดไตรมาส 3/65 มีกำไร 62 ล้านบาท +11%YOY และ -9%Q0Q ส่วน 9 เดือนของปี 65 กำไร 191 ล้านบาท +22%YOY คิดเป็น 73% ของประมาณการทั้งปี 65 ที่ 260 ล้านบาท
ผู้บริหารคงเป้ารายได้ปี 65 เติบโตราว 10%YoY (9 เดือนของปี 65 มีรายได้ 1.1 พันล้านบาท +12%YOY) โดยเราคาดแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/65 จะเติบโตทั้ง YOY, Q0Q จากการเข้าสู่ซ่วง High Season ประกอบกับได้อานิสงส์จากสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลายลง ส่งผลบวกต่อการท่องเที่ยวและการฟื้นตัวของธุรกิจลิขสิทธิ์การ์ตูน ขณะที่ราคาต้นทุนวัตถุดิบปัจจุบันเริ่มทรงตัวและมีบางรายการปรับลดลงแล้ว โดยคาด %GPM งวดไตรมาส 4/65 จะใกล้เคียงกับไตรมาส 3/65 และจะปรับดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 1/66 เป็นต้นไป