นายสุเทพ ศรีสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีโอที เปิดเผยว่า ทีโอทีจะร้องขอเพิกถอนคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการต่อศาลปกครองเพื่อความชอบธรรม ระบุสัญญาชี้ชัดโทรศัพท์เคลื่อนที่ไม่ใช่บริการพิเศษ เพราะมีมาก่อนทำสัญญาบมจ.ทีทีแอนด์ที(TT&T) และ คำตัดสินของอนุญาโตตุลาการไม่ได้เป็นเอกฉันท์ทั้งคณะ โดยมองว่าโทรศัพท์พื้นฐานต้องมีสายแต่โทรศัพท์เคลื่อนที่ไม่มีสาย
ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าว สืบเนื่องมาตั้งแต่ปี 2548 ทีทีแอนด์ทีได้นำเสนอข้อพิพาทเข้าสู่การพิจารณาของอนุญาโตตุลาการให้พิจารณาว่า ทีโอที ได้อนุญาติให้บุคคลอื่นนำบริการพิเศษผ่านโครงข่ายทีทีแอนด์ทีสร้างขึ้นโดยไม่ได้รับส่วนแบ่งรายได้จาก กสท. เอไอเอส และ ดีแทค จำนวน 23,000 ล้านบาทในขณะนั้น หรือ 28,000 ล้านบาทในปัจจุบัน
ทีโอทีได้ต่อสู้โดยแย้งว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ไม่ใช่บริการพิเศษเพราะเป็นบริการที่มีมาก่อนสัญญาร่วมการงานและร่วมลงทุนขยายบริการโทรศัพท์ 1.5 ล้านเลขหมายในภูมิภาคที่ทีโอทีทำกับทีทีแอนด์ที ความหมายของบริการพิเศษตามสัญญาคือบริการที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจึงจะมาเจรจากันส่วนแบ่งรายได้
นอกจากนั้น โครงข่ายทีทีแอนด์ทีเป็นโครงข่ายทีโอทีเพราะตามสัญญาเมื่อทีทีแอนด์ทีก่อสร้างแล้วเสร็จก็ต้องส่งมอบทรัพย์สินให้กับ ทีโอที ก่อนที่ทีโอทีจะส่งมอบกลับไปให้ทีทีแอนด์ทีให้บริการการเชื่อมโยงจึงเป็นการเชื่อมโยงเข้ามาในโครงข่ายทีโอที
อนึ่ง ทีทีแอนด์ที แจ้งว่าเมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมาได้รับแจ้งจากสถาบันอนุญาโตตุลาการ สำนักงานระงับข้อพิพาท สำนักงานศาลยุติธรรม ให้บมจ.ทีโอที ชำระเงินค่าผลประโยชน์ตอบแทนจำนวน 2.38 หมื่นล้านบาท ให้แก่บริษัทฯ พร้อมดอกเบี้ย สำหรับการที่ทีโอทีนำเอาบริการพิเศษมาใช้ผ่านโครงข่ายของบริษัทฯ ตามสัญญาร่วมการงานและร่วมลงทุนขยายบริการโทรศัพท์ในเขตโทรศัพท์ภูมิภาค ระหว่าง ทีโอที กับบริษัทฯ จนกระทั่งถึงวันที่คณะอนุญาโตตุลาการมีคำชี้ขาด
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/เสาวลักษณ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--