นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ทีวีดี โฮลดิ้งส์ (TVDH) เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทฯ ทรานส์ฟอร์มธุรกิจสู่ ซูเปอร์ โฮลดิ้ง คัมปานี และดำเนินกลยุทธ์การตลาดอย่างแข็งแกร่งเพื่อสร้างการเติบโตจากธุรกิจเดิม (Organic Growth) ได้แก่ ทีวี ไดเร็ค, เอบีพีโอ, เอ็กซ์เพรสโซ่ และทีวีดี โบรกเกอร์ ซึ่งปัจจุบันมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนเดินหน้าสร้างการเติบโตจากการขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพ (Inorganic Growth) ประกอบด้วย ทีวีดีเอ็ม ทีวีดีซีและทีวีดี เอ็กซ์ซูเซีย รวมทั้งการลงทุนธุรกิจแห่งอนาคตในกลุ่มสตาร์ทอัพ เช่น อี๊ตแล็บ, นาสเก็ต รีเทล เป็นต้น จึงคาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4 จะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า และพลิกกลับมาเทิร์นอะราวด์ในไตรมาส 1/2566 สำหรับแผนธุรกิจบริษัททีวี ไดเร็ค (บริษัทย่อยของ TVDH) มุ่งวางกลยุทธ์นำเสนอผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ทำอัตรากำไรขั้นต้นที่ดี เพื่อพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างรายได้หลัก (Hero products) ตลอดจนนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาขับเคลื่อนธุรกิจ โดยอยู่ระหว่างการนำระบบแชทบอท (AI Robotic) เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง จะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของทีมคอลเซ็นเตอร์ได้มากขึ้นถึง 30-50% และทำให้สามารถโยกย้ายบุคลากรส่วนหนึ่งไปทำงานด้านอื่นๆ ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทำให้ต้นทุนการดำเนินงานลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าการดำเนินงานของทีวี ไดเร็ค จะกลับมาสร้างผลกำไรได้ในปี 2566 ขณะที่การลงทุนในธุรกิจใหม่ มีความคืบหน้าและเริ่มขับเคลื่อนสร้างรายได้ใหม่ ทั้งบริษัทใหม่ 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท ทีวีดีซี จำกัด หรือ TVDC เพื่อให้บริการสินเชื่อที่มีอสังหาริมทรัพย์หรือสังหาริมทรัพย์เป็นหลักประกัน ขณะนี้มียอดปล่อยสินเชื่อแล้วกว่า 100 ล้านบาท ด้านบริษัท ทีวีดี เอ็กซ์ซูเซีย จำกัด หรือ TVDE ผู้ดำเนินธุรกิจบันเทิงครบวงจร ซึ่งล่าสุดได้ร่วมลงทุนบริษัท ณัฐรัฐ โฮลดิ้งส์ จำกัด ผู้จัดงานจัดมิวสิกเฟสติวัล EDM เจ้าของแบรนด์ระดับโลก ประสบความสำเร็จอย่างงดงามจากการจัดงานเทศกาลดนตรีแนว EDM "808 Festival" เมื่อวันที่ 9 ? 11 ธันวาคมที่ผ่านมา มียอดจำหน่ายบัตรเต็มทุกรอบ และมีผู้เข้าร่วมงานเต็ม 19,000 คนทุกวัน
ส่วนบริษัท เอบีพีโอ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ที่ได้เข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท เพนกวินเอ็กซ์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการรับเป็นที่ปรึกษาให้คำแนะนำธุรกิจด้านอาหารรวมถึงการโฆษณา ในสัดส่วน 10% คาดว่าธุรกิจต่าง ๆ ดังกล่าวข้างต้นจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้และส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในช่วงไตรมาส 1/2566 รวมถึงบริษัท ฟู้ด ออเดอรี่ จำกัด ที่ TVDH ร่วมถือหุ้น เป็นสตาร์ตอัพที่พัฒนาและให้บริการแพลตฟอร์มรับ-ส่งอาหารระดับชาติภายใต้ชื่อ "eatHUB" ล่าสุดบมจ. ทาคูนิ กรุ๊ป (TAKUNI) ได้เข้ามาเป็นผู้ร่วมลงทุนรายใหม่ โดยเข้าถือหุ้นสัดส่วน 5.18% ในฟู้ด ออเดอรี่และเป็น Convertible Loan อีก 45 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยต่อยอดและเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้ให้กับกลุ่ม TVDH อีกทางหนึ่ง "มองไปข้างหน้า โดยเฉพาะในปี 66 สภาพแวดล้อมการทำธุรกิจจะเปลี่ยนแปลงไปพอสมควร เศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น แต่เงินเฟ้อสูงและดอกเบี้ยสูง ดังนั้น TVDH ต้องปรับเปลี่ยนแนวคิดและการดำเนินธุรกิจ รวมทั้งการคิดค่าบริการและอัตราผลตอบแทนให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมใหม่ ทั้งในธุรกิจ organic เดิม และธุรกิจ inorganic เพื่อให้ผลตอบแทนต่อผู้ลงทุนและผู้ถือหุ้นอยู่ในระดับที่เหมาะสมกับต้นทุนเงินและความเสี่ยงที่สูงขึ้น โดยนับตั้งแต่การทรานส์ฟอร์มธุรกิจ TVDH เราวางรากฐานธุรกิจใหม่ครั้งใหญ่ ด้วยการปรับโครงสร้างทางธุรกิจ ปี 66 นี้เราพร้อมรับโอกาสจากยุคดิจิทัลและรับมือกับดิสรัปชันที่อาจจะขึ้นได้ตลอดเวลา ด้วยจุดมุ่งหมายการลงทุนและขยายธุรกิจที่มีศักยภาพ ทำให้ผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ฟื้นตัวดีที่สุดในรอบปี 2565 เป็นบทพิสูจน์ความสำเร็จของ TVDH ที่จะกลับมาสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต" นายทรงพลกล่าว