ที่ประชุมคณะกรรมการบมจ. ไซแมท เทคโนโลยี (SIMAT) มีมติทำสัญญาซื้อหุ้นของ Sino Co., Ltd. และ High Rich Co., Ltd. ในประเทศเวียดนาม
โดย บมจ. ไซแมท เทคโนโลยี จะเข้าทำการซื้อหุ้นของ Sino Co., Ltd. จำนวนร้อยละ 40 ของหุ้นทั้งหมด และ บ. ไซแมท เลเบล (ซึ่งเป็น บ. ย่อย ของ บมจ. ไซแมท เทคโนโลยี) จะเข้าทำการซื้อหุ้นของ High Rich Co., Ltd. (ซึ่งเป็น บ.ย่อย ของ Sino Co., Ltd.) จำนวนร้อยละ 40 ของหุ้นทั้งหมด
"SIMAT เข้าลงทุนในเวียดนามครั้งนี้ถือเป็นการ Synergy ของทั้ง 2 ฝ่าย เพราะแม้จะทำธุรกิจเดียวกัน แต่มีความเชี่ยวชาญในกลุ่มธุรกิจต่างกัน ทำให้สามารถนำจุดแข็งมาเสริมศักยภาพซึ่งกันและกันได้ โดย Sino จะเชี่ยวชาญในกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิต อาทิ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ลูกค้าสำคัญได้แก่ ซัมซุง, ฟูจิตสึ และ ซันโย เป็นต้น ในขณะที่ SIMAT เชี่ยวชาญในธุรกิจค้าปลีก ดังนั้น จะช่วย Sino ขยายตลาดได้เพิ่มขึ้น ส่วน High Rich ก็เป็นธุรกิจที่ส่งเสริมกัน"นายทองคำ มานะศิลปพันธ์ รองประธานกรรมการ SIMAT กล่าว
ส่วนสาเหตุที่เลือกเข้าลงทุนในเวียดนามเป็นประเทศแรก เป็นเพราะเป็นประเทศที่ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(GDP) มีอัตราเติบโตโดดเด่นโดยในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมามีการขยายตัวประมาณ 6-7% ต่อปีซึ่งบ่งชี้ถึงภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม และการบริโภคที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ดังนั้นคาดว่าจะทำให้ธุรกิจประเภทไอที โซลูชั่น ขยายตัวตามไปด้วย ประกอบกับปัจจุบันลูกค้าของ SIMAT และลูกค้าของ Grand-Flo Solution Berhad หลายรายได้เริ่มขยายฐานธุรกิจออกสู่ตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะเวียดนาม จึงถือเป็นการขยายธุรกิจเพื่อรองรับฐานลูกค้าเดิมและเพิ่มช่องทางการขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มเติมนอกเหนือจากตลาดในประเทศสำหรับบริษัทฯ ด้วย
Sino Co., Ltd. ทำธุรกิจเกี่ยวกับการขายอุปกรณ์ barcode และ software ซึ่งเป็นธุรกิจเดียวกับ บมจ. ไซแมท เทคโนโลยี
ส่วน High Rich Co., Ltd. ทำธุรกิจเกี่ยวกับผลิตและจำหน่ายกระดาษพิมพ์สำหรับฉลากบาร์โค้ดซึ่งเป็นธุรกิจเดียวกับ บ. ไซแมท เลเบล ภายใต้สัญญานี้ กลุ่มบริษัท Sino จะไม่เข้ามาดำเนินธุรกิจแข่งขัน (ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม) กับ บมจ. ไซแมท ในประเทศไทย และ บมจ. ไซแมทจะไม่เข้าไปดำเนินธุรกิจแข่งขันกับ Sino ในเวียดนามและกัมพูชาซึ่ง Sino ได้ดำเนินธุรกิจอยู่ก่อนแล้ว
ทั้งสองฝ่ายมีข้อตกลงว่าการลงทุนในธุรกิจนอกอาณาเขตของแต่ละฝ่าย ในรูปแบบของการลงทุนซื้อหุ้น หรือสินทรัพย์ในกิจการที่มีธุรกิจคล้ายคลึงกับธุรกิจของตน จะมีสัดส่วนการลงทุนร่วมกันที่ 50:50 นอกจากจะมีการตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่น
SIMAT จะเข้าไปลงทุน หลังจากที่มีการตรวจสอบทรัพย์สิน (Deal Diligent) เรียบร้อย และจะต้องมีสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิ (Net Tangible Assets- NTA) รวมกันไม่ต่ำกว่า 16 ล้านบาท และในสองปีแรก(2551-2552) หลังจากที่เซ็นสัญญาเข้าลงทุนทั้ง 3 บริษัทจะต้องมีผลประกอบการเป็นกำไรรวมกันไม่ต่ำกว่าปีละ 11 ล้านบาท ส่วนการชำระค่าหุ้นจะแบ่งออกเป็น 3 งวด โดยงวดแรกจะชำระ 14 ล้านบาท หลังจากขั้นตอน Deal Diligent เสร็จสิ้นลง ซึ่งคาดว่าการตรวจสอบดังกล่าวจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 3/2551 ส่วนที่เหลืออีก 10 ล้านบาท จะชำระเป็นงวดที่สองในสิ้นปี 2551 และงวดสุดท้ายจะชำระสิ้นปี 2552
ด้าน Mr.Derrick Tan, GROUP PRESIDENT & managing director of Grand-Flo Solution Berhad และ ประธานกรรมการ SIMAT กล่าวว่า เรามีความยินดีกับก้าวสำคัญของบริษัทที่จะได้เข้าไปลงทุนในตลาดเกิดใหม่แห่งนี้ ซึ่งความต้องการในด้าน tracking solution กำลังขยายตัว โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากกระแสการลงทุนทางตรงจากต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากบริษัทข้ามชาติที่เข้าไปพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
นอกจากนี้ เวียดนามกำลังเป็นแหล่งลงทุนทางเลือกที่มีความน่าดึงดูดมากขึ้นเมื่อเทียบกับจีนที่มีกระแสเงินทุนเข้าไปในปริมาณที่สูงและรวดเร็วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/นิศารัตน์/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--