บมจ.แสนสิริ(SIRI) ปรับเป้าหมายยอดขายปี 2551 ใหม่เพิ่มเป็น 26,000 ล้านบาท จากเดิมตั้งไว้ที่ 20,000 ล้านบาท โดยวางกลยุทธ์รุกหนักเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่อย่างครบวงจรทั้ง“บ้านเดี่ยว-คอนโดฯ-ทาวเฮ้าส์"จากแผนเดิม 15 โครงการ เป็น 26 โครงการ และเพิ่มประมาณการณ์รายได้รวมแตะ 1.9 หมื่นล้านบาท ในขณะที่มียอดขายล่วงหน้า (Pre-sale Back Log) สูงสุดในระบบแล้ว 22,000 ล้านบาท สามารถรองรับการเติบโตได้อย่างมั่นคงและแข็งแกร่งในทุกสภาวะทางเศรษฐกิจ
นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการ SIRI กล่าวว่า บริษัทฯ ได้มีการพิจารณาและปรับแผนการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทแสนสิริในปี 2551 ใหม่อีกครั้ง หลังจากดำเนินการมาแล้ว 1 ไตรมาส ทั้งนี้เพื่อให้สอดรับกับสภาวะการณ์ทางเศรษฐกิจและทิศทางของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่มีแนวทางที่ชัดเจนมากขึ้น
กลุ่มแสนสิริจะมีการปรับแผนการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยที่ครบวงจรเพิ่มขึ้น จากเดิม 15 โครงการ เป็น 26 โครงการ ทำให้คาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นจาก 20,000 ล้านบาท เป็น 26,000 ล้านบาท รวมถึงจะส่งผลให้คาดการณ์ได้ว่าจะสามารถสร้างรายรับรวมได้สูงถึง 19,000 ล้านบาท จากเดิมที่คาดไว้เพียง 17,000 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งการปรับเป้าหมายการเติบโตทางธุรกิจของแสนสิริในครั้งนี้ นับเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้แผนการรุกสู่การเป็นผู้นำอันดับหนึ่งของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มแสนสิริมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
โครงการใหม่ในปีนี้ ประกอบด้วย โครงการบ้านจัดสรร 8 โครงการ มูลค่าโครงการประมาณ 7,600 ล้านบาท โครงการคอนโดมิเนียมประมาณ 10 โครงการ มูลค่าโครงการประมาณ 11,000 ล้านบาท และโครงการทาวน์เฮ้าส์ประมาณ 8 โครงการ มูลค่าโครงการประมาณ 7,100 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการที่จะพัฒนาใหม่ทั้งสิ้นเกือบ 26,000 ล้านบาท
การปรับแผนการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทแสนสิริในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการรุกสู่ความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย ด้วยการขยายการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแบบครบวงจร ที่ตอบรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าทุกประเภทและทุกระดับราคา โดยแสนสิริดำเนินการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยระดับกลาง ถึงระดับพรีเมี่ยม ทั้งโครงการคอนโดมิเนียมและโครงการบ้านจัดสรร ในขณะที่ให้บริษัทในเครือ ได้แก่ บริษัทพลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ดำเนินการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม
สำหรับลูกค้าระดับกลางถึงกลุ่มลูกค้าทั่วไป อาทิ โครงการคอนโดวัน และมายด์คอนโด รวมถึงโครงการทาวน์เฮ้าส์ ได้แก่ ทาวน์พลัส รวมถึงบริษัทพร้อมพัฒนา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด รุกตลาดบ้านแฝดและบ้านเดี่ยวที่มีระดับราคาเหมาะสมกับลูกค้าทั่วไป เป็นต้น
นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า กลุ่มแสนสิริมียอดขายล่วงหน้าที่รอรับรู้รายได้ในอีก 1-3 ปี ประมาณ 22,000 ล้านบาท ที่เป็นยอดขายล่วงหน้าที่สูงที่สุดในระบบในขณะนี้ นับเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างความมั่นคงในระยะยาวให้กับบริษัทได้เป็นอย่างดี แม้ปัจจัยทางเศรษฐกิจจะมีการเปลี่ยนแปลงก็ตาม
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/ศศิธร/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--